วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

หลังโอมิครอนพ่นพิษ ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลโอด ซื้อแพงแต่ขายถูกยอมขาดทุน รักษาสิทธิ

หลังโอมิครอนพ่นพิษ  ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลโอด ซื้อแพงแต่ขายถูกยอมขาดทุน รักษาสิทธิ

        จากการลงพิ้นที่บริเวณขายสลากกินแบ่งรัฐบาลบริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร ของผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ปรากฎว่า ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยต้องแบกรับภาระขาดทุนจากต้นทุนสลากที่ซื้อมาแพง แต่ต้องยอมขายในราคาถูก เพื่อรักษาโค้วต้าสลากฯไว้ การระบาดอีกครั้งของเชื้อโควิด "โอมิครอน" ยังกระทบกับผู้ค้าสลากรายย่อยในแต่ละงวด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอยากให้มีการแก้ไขสัดส่วนกำไรจากต้นทาง เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถประกอบอาชีพนี้ต่อไปได้

                     ผู้ค้าสลากรายย่อยหลายราย บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เกือบทุกแผงมีการติดป้ายขายสลากในราคาใบละ 55 บาท ในหมวดเลขไม่สวย ส่วนในหมวดตัวเลขที่นิยมกันราคาขายยังเป็นไปตามกลไกของตลาด ที่มีราคาต้นทุนสูงอยู่มาอย่างต่อเนื่อง

                      แม่ค้าขายลอตเตอรี่ย่านสี่แยกคอกวัวรายหนึ่งยอมรับว่า ต้องแบกภาระขาดทุนมาแล้วหลายงวด ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เรื่อยมา ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลน้อยลง การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีการแข่งขันกันมากขึ้น ช่องทางซื้อขายแพลตฟอร์มออนไลน์ยังส่งผลถึงผู้ค้าสลากที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ที่ต้องแบกภาระขาดทุนมาโดยตลอด เพื่อรักษาโค้วต้าและเครดิตตัวเองไว้ การแก้ไขปัญหาราคาจากต้นทางให้ถูกลง จะเป็นธรรมกับผู้ค้ารายย่อยให้มีอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว


                      ปรากฎการณ์ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาเพียงใบละ 55 บาทเท่านั้น จากราคาต้นทุนที่ออกจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลใบละ 70 บาท 40 สตางค์ ผู้ค้าต้องยอมขาดทุนหลายงวดติดต่อกัน นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนนโยบายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกมาหลายรูปแบบ หวังแก้ปัญหาราคาต้นทุนสลากแพง กลับยิ่งสร้างความปั่นป่วนในตลาดค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กระทบกับหลายองค์กร หลายสมาคมที่เป็นคู่ค้ากับสำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ได้ตามเป้าที่ควรจะเป็น

                      การแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การปรับลดราคาจากต้นทางน่าจะเป็นการคืนกำไรให้กับประชาชนโดยส่วนรวมอย่างแท้จริง เป็นการช่วยราชเสริมรัฐ โดยทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลย่านสี่แยกคอกวัวรายหนึ่งว่า ปัจจุบันราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลตกลงไปอยู่ที่ใบละ 50 บาท ต้องฝืนทนยอมขาดทุน ซื้อแพงขายถูก

                   

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

บางกอก อินโนเวชั่น เฮ้าส์ จับมือ อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส ประกาศความร่วมมือด้านคอร์สออนไลน์พัฒนาทักษะ Upskill Reskill ยกระดับแรงงานไทย ดึงการลงทุนจากต่างชาติใน Smart City และ EEC

บางกอก อินโนเวชั่น เฮ้าส์ จับมือ อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส ประกาศความร่วมมือด้านคอร์สออนไลน์พัฒนาทักษะ Upskill Reskill ยกระดับแรงงานไทย ดึงการลงทุนจากต่างชาติใน Smart City และ EEC

 

                   บริษัท บางกอก อินโนเวชั่น เฮ้าส์ จำกัด หรือ BIH ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและคอร์สออนไลน์ Upskill Reskill สำหรับองค์กรและประชาชนทั่วไปเพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0 ได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด เป็นบริษัทในเครือข่ายของบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะ ซิตี้ ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้นำด้านการดูแล พัฒนา และการจัดการในนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้


                ดร. ผาณิต เสรีบุรี CEO บริษัท บางกอก อินโนเวชั่น เฮ้าส์ จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า “ในสมัยก่อนนั้น ประเทศไทยนับว่าเป็น ประเทศ ที่จัดอยู่ในลำดับต้นๆของประเทศน่าลงทุน มักจะอยู่ในลิสก์ที่ชาวต่างชาติประเมินเพื่อมาลงทุน เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อได้เปรียบทางด้านที่ตั้ง การสนับสนุนจากภาคต่างๆ และ ความสามารถของแรงงานไทย แต่ในช่วงหลัง 3-5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศต่างๆ รวมถึง ประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการพัฒนากันอย่างรวดเร็ว มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนมากมายเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศนั้นๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถของแรงงานและบุคลากรต่างๆ ในประเทศให้ก้าวหน้าอย่างเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างๆสนใจ และย้ายฐานการลงทุน และการผลิตออกจากประเทศไทยมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ซึ่งถ้าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยโดยไม่ทำอะไร จากที่เราเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของการลงทุนนั้น อาจจะทำให้ประเทศไทยค่อยๆ หลุดออกจากเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งทาง BIH เองได้เล็งเห็นถึงจุดนี้ และอยากที่จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะพัฒนาบุคลากรต่างๆ รวมถึงแรงงานในประเทศ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้กับทางอมตะ ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งจะเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเรากลับเข้าสู่เป้าหมายหลัก และเป็นอันดับต้นๆ ในเวทีนานาชาติอีกครั้ง ”



                     ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวความร่วมมือสำคัญ ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาแรงงานไทยเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ และเพื่อตอบโจทย์ความเป็น Smart city ของอมตะแลัว ทางบางกอก อินโนเวชั่น เฮ้าส์ จะเข้ามาช่วยเสริมในมุมของ Smart Education and Lifelong learning Platform โดยร่วมกันให้บริการคอร์สออนไลน์ภายใต้แบรนด์ Achieve Plus มุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลและทักษะการทำงานยุคใหม่ รวมถึงงานที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล Digital HR ครบวงจรสำหรับกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และระยอง โดยจะเน้นการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรขององค์กรต่างๆ ในนิคม  ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hard skill ต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพด้านการทำงานในปัจจุบัน รวมไปถึง Soft skill เพิ่มศักยภาพของบุคลากร และขยายผลไปในส่วนทักษะเพื่ออนาคต Future skill ต่อไป เพื่อรองรับและตอบสนองโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และนี่จะเป็นก้าวสำคัญ ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดแรงงานของประเทศไทยในพื้นที่ EEC ให้สามารถต่อสู้ในระดับนานาชาติได้ต่อไปในอนาคต


วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

สทท. ปรึกษาหารือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ก่อนการลงนามร่วมกันในความร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ

สทท. ปรึกษาหารือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ก่อนการลงนามร่วมกันในความร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ 

                       นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) ร่วมปรึกษาหารือกับว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตัวแทนนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในความร่วมมือกันในการพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ก่อนลงนามร่วมกัน โดยมีคณะกรรมการบริหาร สทท. อาทินางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธาน สทท., นายสุรวัช อัครวรมาศ รองประธาน สทท., นายกฤษณ์ จิระมงคล ผู้ช่วยประธาน สทท. และนายกสมาคมผู้ผสมเครื่องดื่มและบริการ, นายยุพราช วงศ์ดาวกูล ผู้ช่วยประธาน สทท.และประธานชมรมบาร์เทนเดอร์ภาคตะวันออกประเทศไทย, นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ กรรมการบอร์ด สทท. และผู้บริหารกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมปรึกษาหารือด้วย ณ ห้องประชุมอัมพร จุณณานนท์ ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เมื่อวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565

                                               





                       การปรึกษาหารือในครั้งนี้ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กับ ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งคณะกรรมการบริหาร ได้กล่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ โดยมีแผนในการพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมกันในหลายๆ ประเด็น รวมถึงแผนการพัฒนาฝีมือแรงงานหลักสูตรพนักงานผสมเครื่องดื่ม และการส่งเสริมการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติสาขาท่องเที่ยวและบริการ การพัฒนาศักยภาพให้แก่นักเรียน นักศึกษา หรือกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ  บูรณาการการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้แก่วิทยากร บุคลากรฝึก อาคารสถานที่ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาการ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาฝีมือแรงงานในสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยร่วมกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการจัดส่งพนักงานเข้าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติสาขาท่องเที่ยวและบริการ และได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานดังกล่าว รวมทั้งทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติให้แก่นักศึกษาหรือกำลังแรงงานก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน




โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการให้มีคุณภาพในด้านทักษะฝีมือและผลิตภาพให้เพียงพออย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบกิจการ รองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาทักษะในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engines of Growth) และรองรับการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0

              พร้อมกันนี้ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และตณะกรรมการบริหาร สทท. ก็ได้อวยพร ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เนื่องในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปี 2565 ด้วย

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดตั้ง “ตู้ปันสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน” บรรเทาทุกข์แก่ประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดตั้ง “ตู้ปันสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน” บรรเทาทุกข์แก่ประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19




         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ  มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ / หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์  พร้อมคณะทำงาน จัดตั้ง “ตู้ปันสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน”  ณ บริเวณหน้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย  เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาต่างๆ ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตู้ปันสุขบรรจุทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำตาล น้ำพริก อาหารพร้อมทาน ผักกาดดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยารักษาโรค ยากันยุง เป็นต้น รวมงบประมาณทั้งสิ้น 98,047 บาท (เก้าหมื่นแปดพันสี่สิบเจ็ดบาทถ้วน) พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ตรวจวัดอุณหภูมิ และบริการเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือแก่ผู้มารับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. และ 16.00 น.

 


         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ติดต่อสอบถาม รวมถึงติดตามข่าวสารกิจกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ – ผู้ประสบภัยต่างๆ ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktun

## ถึ ง จ ะ ต้ อ ง อ ยู่ ห่ า ง ...แต่เราพร้อมเคียงข้างคุณเสมอ ##

##ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##  

##แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418##

คลีนิกรักษาผู้มีบุตรยากและส่งเสริมสุขภาพสตรีเผย 11 ข้อ ต้องรู้ เมื่อสาว 35+ อยากเป็นคุณแม่

คลีนิกรักษาผู้มีบุตรยากและส่งเสริมสุขภาพสตรีเผย 11 ข้อ ต้องรู้ เมื่อสาว 35+ อยากเป็นคุณแม่

        ช่วงเทศกาลแห่งความรักคู่รักหลายต่อหลายคู่มักถือโอกาสใช้ฤกษ์หวานๆ เช่นนี้จดทะเบียนสมรส เริ่มต้นชีวิตคู่ ทว่าก่อนจะเริ่มต้นครอบครัวน้อยๆ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเตรียมความพร้อมก่อนแต่งงาน โดยเฉพาะปัจจุบันอายุเฉลี่ยของเจ้าสาวอยู่ที่ 35-38 ปี การตรวจสุขภาพแบบ Pre-Screening จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวิเคราะห์ความพร้อมของทั้งบ่าวสาวตั้งแต่ระดับฮอร์โมน สภาวะมดลูกและรังไข่ ความแข็งแรงสมบูรณ์ของน้ำเชื้อฝ่ายชาย เพื่อเพิ่มโอกาสของการมีบุตรมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้สามารถตรวจสุขภาพเจาะลึกถึงรหัสพันธุกรรม โดยที่ "คลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและส่งเสริมสุขภาพสตรี" (Fertility and Women Wellness Clinic) จะทำงานร่วมกับ “คลินิกดูแล ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ” (Regenerative Wellness Clinic) เป็นการควบรวมทั้งการเจริญพันธุ์และการดูแล ป้องกัน ฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนสุขภาพเฉพาะบุคคลของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เพียงแค่มีบุตรเท่านั้น แต่ยังทำให้มีสุขภาพดีก่อนจะมีบุตร เช่น ต้องเตรียมตัว ต้องบำรุงหรือรับอาหารกลุ่มไหนเป็นพิเศษ รวมทั้งการเสริมในส่วนของวิตามินส่วนบุคคล เป็นต้น ทำให้ Fertility and Women Wellness Clinic หนึ่งในคลินิกเฉพาะทางที่ BDMS Wellness Clinic ได้รับรางวัล Fertility Medical Centre of the Year in the Asia-Pacific 2021 จาก Global Health and Travel Magazine

              นพ.พูลศักดิ์ ไวความดี ผู้อำนวยการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและส่งเสริมสุขภาพสตรี (Fertility and Women Wellness Clinic) แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเจริญพันธุ์ BDMS Wellness Clinic กล่าวว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องการทำงาน การวางแผนสร้างครอบครัว แต่ลืมไปว่าการวางแผนมีบุตรมีความสำคัญไม่แพ้กัน  

         อย่าลืมว่าวันและเวลาผ่านแล้วผ่านเลย ย้อนกลับมาไม่ได้ โดยเฉพาะสาวๆ นั้น ตั้งแต่แรกเกิดจะมีไข่ในรังไข่จำนวนมากเกือบ 4-5 แสนฟอง และจะลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพตามปัจจัยต่างๆ ของร่างกาย การบำรุงรักษาคุณภาพของไข่จึงเป็นเรื่องสำคัญมากในผู้หญิง โดยช่วงเวลาของวัยเจริญพันธุ์อยู่อายุระหว่าง 20-35 ปี การวางแผนมีบุตรจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่นบางคนที่ไม่ได้ตั้งใจโสด แต่สนุกกับการทำงาน ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี กว่าจะนึกได้ก็อายุขึ้นหลัก 3 แล้ว ส่วนหนุ่มๆ แม้ว่าวัยทองจะมาถึงช้ากว่า แต่ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นผลให้ตัวอสุจิไม่แข็งแรงก็มีไม่น้อยเช่นกัน

             การเตรียมตัวมีบุตรต้องทราบว่าสุขภาพของทั้งคู่มีปัญหาอะไรที่จะส่งผลต่อรังไข่และลูกอัณฑะหรือไม่อย่างไร ซึ่งที่ Fertility and Women Wellness Clinic มีเครื่องมือที่ทันสมัยสามารถตรวจวิเคราะห์ร่างกายเชิงลึกถึงรหัสพันธุกรรม 

                  “Fertility and Women Wellness Clinic ยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นเครื่อง Hamilton Thorne IVOS II ใช้ตรวจวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของอสุจิ รูปร่างความผิดปกติต่างๆ รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์ถึงการแตกหักของหัวอสุจิ (DNA Fragmentation) หรือในขั้นตอนของการคัดเลือกอสุจิสำหรับทำ IVF/ICSI/IUI เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า MACs Sperm (Magnetic activated cell sorting Sperm) ในการคัดเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ และได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นอีกด้วย

              ในส่วนของการตรวจสุขภาพเชิงลึก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อการวางแผนการมีบุตรและป้องกันการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมจากรุ่นพ่อแม่สู่ลูก เรียกว่า "การตรวจดีเอ็นเอ" จะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นพิมพ์เขียวสำหรับวางแผนปรับพฤติกรรมในแบบเฉพาะบุคคล ช่วยลดความเสี่ยงมีบุตรที่มีภาวะผิดปกติ เช่นเมื่อทราบว่าคู่สมรสเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียก็สามารถวางแผนป้องกัน ให้โรคธาลัสซีเมียหยุดลงแค่ที่พ่อแม่ ไม่ถ่ายทอดไปยังลูก รวมถึงกรณีคนที่มีประวัติแท้งบ่อย พบว่าร้อยละ 90 ของการแท้งเกิดจากดีเอ็นเอของตัวอ่อนมีความผิดปกติ ทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์หยุดก่อนครบกำหนด ฉะนั้น ประโยชน์ของการวางแผนครอบครัวคือ หมดกังวลว่าลูกที่ออกมาผิดปกติหรือไม่

              อย่างไรก็ตาม การวางแผนมีบุตร นพ.พูลศักดิ์ ไวความดี ผู้อำนวยการคลินิกฯ แนะนำว่า ควรมีเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือนเพื่อการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน โดยการปรับรูปแบบการดำเนินชีวิต ตั้งแต่การรับประทานอาหาร นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การดูแลสภาพร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อการเตรียมตัวอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ 11 ข้อ “ต้องรู้” ในการเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร มีดังนี้... 

1. เข้ารับการปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งตรวจสุขภาพคู่สามี ภรรยา เพื่อเตรียมความพร้อม รวมทั้งประเมินความเสี่ยงในด้านต่างๆ 

2. รับประทานอาหารที่หลากหลาย ครบหมู่ อาหารบางอย่างสามารถกระตุ้นรังไข่ และสเปิร์ม เช่น กลุ่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมาก คือตระกูลเบอร์รี่ อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว เช่น อะโวคาโด ถั่วต่างๆ น้ำมันมะกอก 

3. หลีกเลี่ยงของหวาน การที่รับประทานของหวานมากเกินไปจะทำให้ร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งมีโอกาสทำให้ไข่ตก หรือรังไข่ทำงานลดลง 

4. ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับมาตรฐาน พบว่าคนที่อ้วนมักมีปัญหาไข่ไม่ตก

5. การนอนหลับให้มีคุณภาพ โดยเข้านอนไม่เกิน 22.00 น. และนอนหลับให้ได้ประมาณ 8-9 ชั่วโมง/วัน

6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันละอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน

7. การดูแลสุขภาพใจเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ภาวะเครียดทำให้ปริมาณไข่และอสุจิลดลง 

8 สารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ คือ ธาตุเหล็ก โปรตีน กรดโฟลิคหรือโฟเลต วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี รวมทั้งวิตามินดีจากแสงแดด

9. ตรวจสภาพมดลูกและรังไข่ว่าไม่มีการอักเสบ เพราะการผลิตไข่ในแต่ละครั้งคุณภาพขึ้นกับสุขภาพเจ้าของรังไข่

10. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ทั้งมือหนึ่ง (Firsthand Smoke) และมือสอง (Secondhand Smoke) ก่อนตั้งครรภ์ 3-6 เดือน

11. ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยการเจริญพันธุ์หรือการมีบุตรทางวิทยาศาสตร์ (IVF: In-vitro Fertilization) หรือ อิกซี่ (ICSI : Intracytoplasmic Sperm Injection: ICSI) เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการมีบุตร เพราะการจะมีบุตรที่แข็งแรงสมบูรณ์ ต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงก่อน



วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอบคุณผู้สร้างคุโณปการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในช่วงสถานการณ์โควิดเมื่อปีที่แล้ว

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่อง

เที่ยวแห่งประเทศไทย ขอบคุณผู้สร้าง

คุโณปการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในช่วง

สถานการณ์โควิดเมื่อปีที่แล้ว


นายพิพัฒน์ รัชชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. นำคณะผู้บริหารหน่วยงานและองค์กรเข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตรแก่หน่วยงานหรือองค์กรที่มียอดสะสมแต้มความอยู่รอดของผู้ประกอบการ (Survival Point) ซึ่งเป็นผู้มีคุโณปการต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ภายใต้โครงการ “Workation Thailand ทํางานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” สูงสุด 11 อันดับแรก หรือระดับ Legendary และ Gold จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน ณ ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565

การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตรแก่หน่วยงานหรือองค์กรที่มียอดสะสมแต้มความอยู่รอดของผู้ประกอบการ (Survival Point) ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างกําลังใจให้กับหน่วยงานและองค์กรในการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต่อไปในภายภาคหน้า

โครงการ “Workation Thailand ทํางานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” ดําเนินงานโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล็งเห็นถึงความสําคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในฐานะฟันเฟืองสําคัญในการสร้างรายได้ เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในหลายมิติ จึงกําหนดแนวคิด Working Outing & Meeting from Somewhere เปลี่ยน ทุกที่ของประเทศไทยให้กลายเป็นที่ทํางาน พบปะ พูดคุย สังสรรค์ และจัดประชุม ท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างไป จากเดิม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น

สําหรับผู้ประกอบการที่มียอดสะสมแต้มความอยู่รอดสูงสุด 11 อันดับในระดับ Legendary และ Gold ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร ได้แก่ 

1. บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) 

2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 

3. ธนาคาร กรุงไทย จํากัด (มหาชน) 

4. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 

5. สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 

6. บริษัท ไทยออยล์ จํากัด (มหาชน) 

7.บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) 

8. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) 

9. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

10. บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จํากัด (มหาชน) 

และ 11. บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จํากัด

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการถึง 885 ราย ผู้มีคุโณปการต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย จํานวน 117 ราย โดยโครงการ Workation Thailand มียอดขายรวมทั้งสิ้น 154,507,000 บาท สร้างผลประโยชน์ทางเศรษกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

#workationthailand ทํางานเที่ยวได้รวมใจช่วยชาติ

#AmazingNewChapter

#เที่ยวเมืองไทย amazing ยิ่งกว่าเดิม

#WorkationParadiseThroughoutThailand

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ททท. สำนักงานเชียงราย ชวนเที่ยวงาน "Chiangrai Coffee And Tea Season2

ททท. สำนักงานเชียงราย ชวนเที่ยวงาน "Chiangrai Coffee And Tea Season2

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ชวนเที่ยวงาน "Chiangrai Coffee And Tea Season2022 " ที่เชียงราย พบกับกิจกรรมดีๆ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน 2565 นี้ 


         ททท.เชียงราย ชวนมาจิบชากาแฟ ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินไทยเวียตเจท ทุกเส้นทางจากเชียงราย โรงแรมที่พักโรงแรมหรูในเชียงราย กระเป๋าเดินทาง/กิฟเซทน่ารักๆ ของ ททท. รวมกว่า 300 รางวัลจากร้านกาแฟที่ร่วมโครงการกกว่า 90 แห่ง โดยทุกๆ 300 บาท รับ 1 คูปอง 

 
               มาเที่ยวเชียงรายกันครับกับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่

#เมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวเชียงรายกับชาและกาแฟ

มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ 36

มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ 36 งานสร้างเสริมคนดีมีคุณธร...