วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

รพ.หัวใจกรุงเทพ คว้ารางวัล ELSO Award of Excellence in Extracorporeal Life Support เทคโนโลยีเครื่อง ECMO ช่วย ‘ชีวิต’

รพ.หัวใจกรุงเทพ คว้ารางวัล ELSO Award of Excellence in Extracorporeal Life Support เทคโนโลยีเครื่อง ECMO ช่วย ‘ชีวิต’

         ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพในการทำงานทำให้การรักษาผู้ป่วยในภาวะวิกฤต มีโอกาสรอดชีวิตรวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

         ในสภาวะฉุกเฉิน เทคโนโลยีทางการแพทย์มักถูกนำมาใช้กับผู้ป่วยอย่างทันท่วงที เพื่อแข่งกับนาทีชีวิต ของหนึ่งในนั้น คือ เครื่องเอคโม่ (ECMO) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ปอดเทียม หรือหัวใจเทียม” จากการนำเครื่องเอคโม่มาใช้ในการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างรอบด้าน ทำให้โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ ได้รับรางวัล ELSO Award of Excellence in Extracorporeal Life Support ในปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับทีมเอคโม่ จากสถาบันที่มี ECMO service ทั่วโลก โดยพิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ในการแลผู้ป่วยด้านต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 7 ด้าน ด้วยกัน โรงพยาบาลส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปอเมริกาและยุโรป 

       นพ.อรรถภูมิ สู่ศุภอรรถ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ  กล่าวว่า เครื่องเอคโม่ ECMO (Extracorporeal Membrane Oxygenation) เป็นเครื่องที่ใช้พยุงปอดและหัวใจ ด้วยการดึงเลือดออกจากตัวผู้ป่วยแล้วนำมาฟอกผ่านเครื่องโดยจะมีการควบคุมอุณหภูมิและออกซิเจน ซึ่งตัวเครื่องจะทำหน้าที่คล้ายกับปั๊มน้ำส่งคืนเลือดกลับเข้าไปในร่างกาย สามารถทำงานทดแทนปอดและหัวใจได้ ในกรณีที่ปอดและหัวใจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

“หลักการทำงานของเครื่องจะดึงเลือดออกจากตัวคนไข้ ด้วยการใส่ท่อพลาสติกที่มีขนาดใหญ่เท่าหัวแม่มือผ่านหลอดเลือดตามแขน คอ หรือขา ในบางกรณีอาจใส่ตรงเข้าไปในหัวใจก็ได้โดยการเปิดหน้าอกเข้าไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใส่จากที่ขาหนีบขึ้นไปถึงหัวใจ ซึ่งการใส่จะต้องไม่ทำอันตรายกับหลอดเลือดและไม่ไปทะลุเข้าหัวใจ”ท่อที่ใส่นี้จะใส่อย่างน้อย 2 ท่อ ท่อหนึ่งจะเป็นการเอาเลือดออกจากร่างกาย ส่วนอีกท่อหนึ่งจะเอาเลือดกลับเข้าร่างกาย เมื่อเอาเลือดออกจากร่างกายเข้ามาในตัวเครื่องแล้ว ตัวเครื่องจะเติมออกซิเจนแล้วมีการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ในการปรับอุณหภูมิ อย่างในกรณีที่คนไข้มีไข้ หรือในกรณีที่คนไข้หัวใจหยุดเต้นมาเป็นเวลานาน ต้องการให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำเพื่อที่จะรักษาเซลล์ในสมอง ก็จะใช้การควบคุมอุณหภูมิจากตัวเครื่อง ส่วนการเติมออกซิเจน ในบางกรณีเจอคนไข้โรคปอดที่ทำให้ปอดไม่ยอมทำงาน เช่น การติดเชื้อโควิด-19 โดยคนไข้โควิด-19 บางส่วน มีเชื้อโรคเข้าไปทำลายปอดทำให้ปอดหยุดทำงานไปชั่วขณะหนึ่ง อาจจะเป็นอาทิตย์ๆ การใช้เครื่องตัวนี้ก็จะช่วยได้ โดยมีการเติมออกซิเจนเข้าไปทดแทนปอด ก็คือ ดึงเอาเลือดออกมาแล้วเติมออกซิเจนข้างนอกด้วยการผ่านตัวปั๊มแล้วส่งกลับคืนเข้าสู่ร่างกายอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะพบได้ในคนไข้โรคปอด ไม่ว่าจะเป็นปอดติดเชื้อ ปอดเกิดการอักเสบจากสาเหตุต่างๆ ก็สามารถใช้เครื่องตัวนี้ช่วยชีวิตคนไข้ได้เมื่อเติมออกซิเจนเสร็จก็ต้องผ่านตัวปั๊ม โดยตัวปั๊มจะมีหน้าตาเหมือนกรวยจะทำการปั่นเลือดแล้วคืนกลับเข้าสู่ร่างกายคนไข้ ซึ่งตัวปั๊มนี้สามารถใช้ทดแทนการทำงานของหัวใจได้ ฉะนั้นในกรณีหัวใจไม่ยอมเต้น เช่น หัวใจวาย หรือคนไข้ที่หลอดเลือดหัวใจตีบที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายแล้วไม่ยอมทำงาน ก็สามารถใช้เครื่องมือนี้ทดแทนการทำงานของหัวใจได้เช่นกัน “ในระหว่างที่นำคนไข้มาปั๊มหัวใจ หรือสวนหัวใจ รวมทั้ง ทำการรักษา เตรียมการผ่าตัด สามารถใช้เครื่องมือนี้ซื้อเวลาให้คนไข้มีความดันอยู่ในหลอดเลือดในปริมาณที่พอจะเลี้ยงสมองและอวัยวะต่างๆ ได้ก่อน” สำหรับประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องนี้ว่า “หากไส้กรอง หรือ Membrane นี้มีการทำงานที่ยืนยาวมากขึ้น จะสามารถใช้ทดแทนปอดในคนไข้ที่มีความจำเป็นที่จะใช้ปอดเทียมในระยะยาวๆ ได้ เช่น โรคถุงลมโป่งพองชนิดที่ว่าไม่สามารถฟื้นตัวได้ด้วยตัวเอง หรือปอดเป็นพังผืดชนิดที่ไม่กลับมาแล้ว บางรายต้องอาศัยการผ่าตัดเปลี่ยนปอดแต่ก็หาผู้บริจาคได้ยาก ซึ่งถ้าท่อตัวนี้สามารถใช้ได้ยาวนานขึ้น หลายๆ เดือน หรือเป็นปี ก็จะช่วยในการรักษาผู้ป่วยได้”  

          โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีปริมาณของบุคลากรที่จะเข้ามาร่วมดูแลคนไข้ที่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก และมีความพร้อมเพรียงกันทุกแผนก ทั้งสาขาที่หายากในหลายๆ สาขา บางครั้งเจอปัญหายากในคนไข้บางราย แต่ได้ที่ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเรื่องนั้นมาช่วยดูแลก็ทำให้ผ่านพ้นปัญหายากๆ ไปได้  

การนำเครื่องเอคโม่มาใช้ในการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ ได้รับรางวัล ELSO Award of Excellence in Extracorporeal Life Support ในปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับทีมเอคโม่ จากสถาบันที่มี ECMO service ทั่วโลก ซึ่งมี 7 ด้าน เริ่มจาก Systems Focus คือ ลักษณะของศูนย์บริการ การดูแลคนไข้ จัดระบบเป็นอย่างไร มีจำนวนบุคลากรจำนวนเพียงพอหรือไม่ ด้าน Environmental Focus เรื่องของจำนวนห้องไอซียู อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ด้าน Workforce Focus จะเป็นเรื่องของจำนวนบุคลากร 

          ด้าน Knowledge Management เรื่องของการแลกเปลี่ยนความรู้ในโรงพยาบาล การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างแพทย์และบุคลากรต่างๆ เช่น มีการประชุม มีการปรึกษาหารือกันอย่างต่อเนื่อง  

      ด้าน Quality Focus จะเป็นเรื่องผลสัมฤทธิ์ในการดูแลคนไข้  มีการลงข้อมูลว่าคนไข้รายนี้ใส่เครื่องเอคโม่เมื่อไร การใส่เป็นอย่างไร รวมทั้ง มีการลงฐานข้อมูล ซึ่งฐานข้อมูลนี้จะต้องเอาผลไปเทียบกับผลของ ECMO service อื่นๆ ทั่วโลกด้วย เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในคะแนนที่จะนำมาพิจารณา 

            ด้าน Process Optimization ดูว่าการทำงานของทีมสอดคล้องกับคำแนะนำที่ให้มาหรือไม่ โดยทางการแพทย์จะมีงานวิจัยออกมาใหม่ๆ ทุกปี ทางทีมเอคโม่ของเราก็เอาความรู้พวกนี้มาปรับการทำงานของทีม ไม่ใช่ว่า 5 ปีก่อนทำอย่างไรปัจจุบันก็ทำอย่างเดิม แต่จะต้องมีการปรับปรุงเป็นระยะๆ 

         สุดท้าย Patient & Family Focus ไม่ใช่ดูแลแต่คนไข้แต่ต้องดูแลไปถึงครอบครัวของคนไข้ด้วย บางครั้งต้องมีการเอานักจิตวิทยา จิตแพทย์เข้ามาอยู่ในทีม ในบางเคส เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าทั้งตัวผู้ป่วยและญาติสามารถร่วมไปกับการรักษาของทางทีมแพทย์ได้ โดยจะต้องมองภาพใหญ่ ภาพรวมทั้งหมด  

             รพ.ที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปอเมริกาและยุโรป เช่น Mayo Clinic Rochester, Oregon Health & Science University, The Royal Brompton Hospital, University of Pittsburgh Medical Center, Boston Children's Hospital, Cleveland Clinic, Duke University Hospital, Massachusetts General Hospital, Northwestern Memorial Hospital, Stanford Hospital and Clinics, The University of Chicago Medical Center

            ในแถบเอเชียตะวันออก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ นับเป็นแห่งที่ 3 ถัดจาก National Taiwan University Hospital และ Chonnam National University Hospital ที่ได้รางวัลนี้ 

         ภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น "หัวใจ" นับเป็นอวัยวะหนึ่งที่เกิดภาวะวิกฤตขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่เลือกสถานที่ ยิ่งในสภาวการณ์ปัจจุบันของประชากรในประเทศไทย ที่มีคนก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยมากขึ้น จึงทำให้มีสัดส่วนของคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเงาตามตัว ตามสัดส่วนแล้วผู้ชายจะเริ่มเป็นโรคหัวใจได้เร็วกว่าผู้หญิง โดยจะเริ่มตั้งแต่อายุ 40 ปี ขึ้นไป ในขณะที่ ด้วยสรีระ ฮอร์โมน กายภาพของผู้หญิงทำให้ปกป้องร่างกายของผู้หญิงได้ดีกว่า จึงทำให้ผู้หญิงกว่าจะเริ่มเป็นโรคหัวใจจริงๆ จะเห็นได้ในวัย 60 ปีขึ้นไป  

      “ในปัจจุบันการทำงานมีความเครียดมากขึ้น มีการแข่งขันกันสูง รวมทั้ง อาหารการกินที่หันเหไปรับประทานเลียนแบบชาติทางตะวันตกมากขึ้น ทำให้ร่างกายมีไขมันเพิ่มขึ้น อีกทั้ง การกินดีอยู่ดีของประชากรไทยในบางส่วนที่พอทำงานหนักก็อยากจะรับประทานมากขึ้นซึ่งมีผลต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้ทุกวันนี้เราเห็นคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น”

         เด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี โรคหัวใจที่พบจะเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด ซึ่งหลีกเลี่ยงและแก้ไขไม่ได้ โดยในเด็กเกิดใหม่ 100 คน จะมี 0.5-1 % ที่มีความผิดปกติของหัวใจโดยกำเนิดในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ปัจจุบันเด็กเกิดน้อยลงอัตราการเกิดของโรคก็น้อยลงไปด้วยตรงกับข้ามกับผู้ใหญ่ที่มีอายุเฉลี่ยสูงขึ้นตามวัยก็จะพบการอุบัติของโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  

      ส่วนประชากรไทยที่มีอายุ 15- 40 ปี วัยกลางๆ จะเจอโรคลิ้นหัวใจรูมาติกค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นธรรมดาของประเทศกำลังพัฒนาที่จะเจอกับปัญหานี้ด้วยกันทั้งนั้น โดยโรคลิ้นหัวใจรูมาติกเกิดจากการรับยาฆ่าเชื้อที่ไม่เพียงพอ มีการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดทำให้มีปฏิกิริยาต่อร่างกาย ต่อลิ้นหัวใจ ซึ่งการเกิดของโรคจะใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี และมักจะแสดงอาการในช่วงอายุ 30-40 ปี ก็เลยทำให้ลิ้นหัวใจเสียหายจนกระทั่งใช้งานไม่ได้ หากเป็นมากก็ต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ โดยในแต่ละปีทั่วประเทศไทยจะมีผู้ป่วยเปลี่ยนลิ้นหัวใจประมาณ 3-4 พันคน  

        ส่วนในวัย 50 ปีขึ้นไป จะไปเน้นหนักที่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่วมกับ การสูบบุหรี่ หรือมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน มีประวัติไขมันสูง มีประวัติหลอดเลือดเสื่อม ก็จะส่งผลทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ พอหลอดเลือดหัวใจตีบเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้ กล้ามเนื้อหัวใจก็ตาย ถ้าไปตีบในตำแหน่งที่สำคัญมากๆ เป็นทางหลัก ก็จะไม่มีเลือดไปเลี้ยงหัวใจทั้งแถบ คนไข้ก็จะเสียชีวิตทันที รวมทั้ง ความเสื่อมของร่างกาย หากไม่เป็นโรคของลิ้นหัวใจตีบในช่วงนี้ก็จะไปเป็นในวัย 70-80 ปี สืบเนื่องมาจากความเสื่อมของร่างกาย โดย 2-3% ของประชากรวัย 70 ปีขึ้นไป จะเป็นโรคนี้  

              โรคหัวใจในผู้ใหญ่ที่เจอบ่อยจะมีปัจจัยมาจาก การเสื่อมของหลอดเลือด ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ คือ จากความดันโลหิตสูงนานๆ ซึ่งการที่ความดันสูงบ่อยครั้งเกิดจากการรับประทานอาหารเค็มหรือหวาน หรือปล่อยให้ร่างกายมีไขมันสูงนานๆ พนังหลอดเลือดจะแข็งและทำให้ความดันสูง หรือในคนที่เป็นเบาหวานแล้วไม่ควบคุมน้ำตาลให้ดี ก็จะทำให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดได้เร็ว  

       การที่หลอดเลือดเสื่อมนั้น จะไม่ได้เสื่อมแค่หัวใจ แต่จะเสื่อมทั้งร่างกาย เพียงแต่ว่าเวลาแสดงออกมาจะแสดงออกมาที่อวัยวะสำคัญๆ ก่อน เช่น หัวใจ ไต สมอง เราจึงเห็นบางคนนั่งกินข้าวอยู่ดีๆ ล้มฟุบไปเลย หมดสติ หัวใจวาย แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากหลอดเลือดหัวใจอุดตันกะทันหัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือว่าเสียชีวิตโดยที่ยังไม่ทันได้มาที่โรงพยาบาล เพราะไม่เคยตรวจร่างกายมาก่อนจึงไม่รู้ว่าเกิดการเสื่อมของหลอดเลือด 

          อาการเบื้องต้นของโรคหัวใจ คือ การเหนื่อยง่าย สามารถสังเกตตัวเองได้เช่น การขึ้นบันได 3 ชั้น เมื่อก่อนขึ้นสบายๆ โดยไม่ต้องหยุดพัก แต่วันนี้เดินแค่ชั้นเดียวก็ต้องยืนหอบแล้ว หากมีอาการอย่างนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย สำหรับการดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคหัวใจ สามารถทำได้โดย ในส่วนของการรับประทาน ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือใส่น้ำมันเยอะ หลีกเลี่ยงของทอด อาหารเค็ม ใครที่ชอบใส่พริก ใส่โซเดียมเยอะๆ 2-3 ช้อน ต้องลดปริมาณการใส่ให้น้อยลง แล้วหันไปรับประทานอาหารที่มีรสชาติจืด ถ้าเปลี่ยนได้จะเป็นเรื่องที่ดีต่อหัวใจ  

         คนที่เป็นเบาหวานจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี หลีกเลี่ยงการกินแป้ง การกินน้ำตาลมากๆ  ใน 1 มื้อ ต้องลดปริมาณลง โดยเฉลี่ยๆ ให้เท่าๆ กันในทุกมื้อ น้ำตาลจะได้ไม่สูง  

          รวมทั้ง มีการออกกำลังกาย ครั้งละครึ่งชั่วโมง อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอด โดยจะต้องพิจารณาในเรื่องของวัยและสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น ในคนที่น้ำหนักตัวมากจะให้ไปวิ่งก็คงไม่ไหว จะต้องทำกิจกรรมที่ไม่ลงน้ำหนักในข้อเข่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมของข้อเข่า แนะนำให้ว่ายน้ำหรือปั่นจักรยานก็จะช่วยได้ หากไม่ถนัดให้หันไปเดินเร็ว โดยเริ่มจากการเดินธรรมดาก่อนไปจนถึงเดินเร็ว พร้อมกับการควบคุมปริมาณอาหารไปด้วย ตลอดจน ทำจิตใจให้แจ่มใส หลีกเลี่ยงหรือลดความเครียดให้น้อยลง เพราะการทำงานหนัก เครียดมากๆ ส่งผลให้มีความดันโลหิตสูงอยู่บ่อยๆ ซึ่งจะส่งผลต่อหัวใจ ควรหาวิธีคลายเครียดมาใช้ ซึ่งแต่ละคนจะเลือกวิธีคลายเครียดที่แตกต่างกันไป อย่าง เล่นกีฬา บางคนนั่งสมาธิ บางคนชอบดูหนัง ดูละคร ลองเลือกหามุมที่ตนเองทำแล้วรู้สึกสบายที่สุด เพื่อจะได้เป็นการบาลานซ์ชีวิตให้เกิดความพอดี

             ทางด้านแผนการรักษาโรคหัวใจให้กับผู้ป่วย หากสุดทางแล้วรักษากันไม่ได้จริงๆ วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก็ยังมีอีกขั้นหนึ่ง คือ การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ การใส่หัวใจเทียมที่ทดแทนหัวใจจริง โดยมีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องเอคโม่เพียงแต่ว่าจะย่อส่วนของเครื่องเข้าไปอยู่ในร่างกายของคน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วย ยิ่งถ้าผู้ใช้มีความชำนาญ ใช้ได้อย่างเหมาะสม ถูกเวลา ยิ่งเพิ่มโอกาสรอด ช่วยกู้คืนชีวิตให้กลับคืนมาได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ รพ.หัวใจกรุงเทพ โทร. 080-1919019 Contact Center โทร. 1719  หรือ Heart Care LINE Official : @hearthospital

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ “จุรินทร์” เปิดงาน The Marché by STYLE Bangkok 2022 งานแสดงสินค้า BCG ไทยที่โดนใจตลาดโลก

 รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ “จุรินทร์” เปิดงาน The Marché by STYLE Bangkok 2022 งานแสดงสินค้า BCG ไทยที่โดนใจตลาดโลก

              นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไทย The Marché by STYLE Bangkok 2022 อวดสินค้า BCG (Bio-Circular-Green) และสินค้ารักษ์โลกจากผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยที่สอดรับเมกะเทรนด์โลก ปลื้มสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยปี 64 และสินค้าแฟชั่นไทย โดยมี นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารกรมฯ ตลอดจนสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และกลุ่มเซ็นทรัลเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงณ ลาน Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 20พฤษภาคม 2565

                                                                                                                                                                            

            นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 และผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงกว่าสองปีนี้มาได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งเป้าหมาย และใช้ยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของ กระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ พร้อมๆ กับการเพิ่ม GDP ให้กับประเทศ และการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในทุกระดับ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และนโยบายที่กระทรวงฯ ตั้งไว้ ส่งผลให้ภาพรวมด้านเศรษฐกิจการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตกว่าร้อยละ 17.1  จากที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 4 หรือเกินเป้ากว่า 4 เท่า นำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวน 8.5 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นมีมูลค่า 385,459 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 18.66 และจากการผลักดันเชิงรุกส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 65    มีมูลค่า 109,597 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 25.98

                                                                                                                                                                            แนวทางการดำเนินงานดังกล่าว เป็นการผสานความแข็งแรงของ นโยบายส่งออกเชิงรุก ซึ่ง “รัฐหนุนเอกชนนำ” ให้เอกชนเป็นทัพหน้า ในขณะที่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์เป็นกองหลังสนับสนุนอย่างเต็มที่

     นอกจากนี้ยังมี คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ หรือ กรอ. พาณิชย์ เป็นเวทีให้หน่วยราชการกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนทุกสาขาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเสนอแนะวิธีแก้ปัญหาและอุปสรรคด้านการส่งออก

                                                                                                                                                                                       ในปี 2565 นี้ กระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าส่งออกไว้ 9 ล้านล้านบาท ซึ่งใน 3 เดือนแรกที่ผ่านมาก็สามารถทำยอดได้แล้วถึง 2.4 ล้านล้านบาท ด้วยนโยบาย 2 ข้อผสมผสาน นั่นคือ นโยบายเชิงรุก หรือ Proactive Trade Policy และเชิงลึก หรือ ln-Depth Policy ทั้งนี้ จะมีการเร่งทำแผนรุกและลึกใหม่ ผลักดันการส่งออกต่อไปให้เข้มข้นยิ่งขึ้น 

            การจัดงาน The Marché by STYLE Bangkok ในครั้งนี้ นับเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ตอบสนอง Megatrend ของโลก ในเรื่องของเศรษฐกิจชีวภาพหรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งเสริมและผลักดันสินค้าและบริการไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น อันเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย 

                สินค้าไลฟ์สไตล์ไทย ในปี 2564 มีการขยายตัวถึงร้อยละ 22.28 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 แสนล้านบาท ในขณะที่สินค้าแฟชั่นไทยเติบโตถึงร้อยละ 14.92 คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.8 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทั้งความโดดเด่นในด้านดีไซน์ ความมีเอกลักษณ์ และคุณภาพ บวกกับแผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ครอบคลุมหลากหลายมิติ รวมถึงการเร่งรัดการส่งออกยุค New Normal ทำให้มั่นใจได้ว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นตลอดปี 2565 จะเติบโตเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 7.5 อย่างแน่นอน

                                                                                                                                                                                นอกจากนี้ภายในงานยังมีการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่ม SME ด้วยการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายหลัง New Normal โดยมีจำนวน 190 คู่เจรจา จาก 21 ประเทศ ประมาณการคาดการณ์มูลค่าเจรจา 70 ล้านบาท และมีผู้ซื้อเดินทางมาชมงานจากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรีย เป็นต้น

                                                                                                                                                                                   

          The Marché by STYLE Bangkok 2022 จัดแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นในกลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้าและเครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญของชำร่วย เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องตกแต่งบ้าน และสินค้า Wellness พร้อมกิจกรรมโปรโมชั่นสำหรับผู้ซื้อ โดยมีมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทุกวันถึง 22 พฤษภาคม 2565 นี้

               ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานแสดงสินค้าที่เซ็นทรัลเวิลด์ หรือชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook และ Instagram Style Bangkok Fair หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169


                                                                                                                


วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เปิดงาน The Marché by STYLE Bangkok วันแรกคึกคัก ขนสินค้าไลฟ์สไตล์ BCG ต้อนรับนักช้อปสายรักษ์โลก

เปิดงาน The Marché by STYLE Bangkok วันแรกคึกคัก ขนสินค้าไลฟ์สไตล์ BCG ต้อนรับนักช้อปสายรักษ์โลก


                The Marche’ by STYLE Bangkok งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ภายใต้ธีม Global Trends, your styles นำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นกลุ่ม BCG ที่ดีต่อผู้ใช้ ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม จากผู้ผลิต-ผู้ส่งออกไทยคุณภาพ จัดแสดงกว่า 150 บูธ ให้นักช้อปสายรักษ์โลกทั้งไทยและต่างชาติ เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

                ภายในงานรวบรวมเอาสินค้า BCG หรือ Bio-Circular-Green มาจัดแสดงร่วมกันมากที่สุดงานหนึ่ง จัดเต็มบนพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็น 7 โซนสินค้า สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า (Fashion & Leather) สินค้าของขวัญ ของชำร่วย ของเล่น (Gifts & Premiums) สินค้าเครื่องครัว เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร (Houseware) สินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Furniture) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสปา (Wellness) สินค้าของตกแต่งบ้าน (Home Décor) และโซนสินค้ามีดีไซน์โดดเด่น (Design Hall)

นอกจากสินค้าคุณภาพส่งเกรดพรีเมียม ทั้งแบรนด์ไทยดังไกลระดับโลกและแบรนด์น้องใหม่ที่ควรค่าแก่การสนับสนุน ผู้เข้าชมงาน ยังได้เต็มอิ่มกับกิจกรรม Price Off และ Pro Reward โปรโมชั่นส่วนลดจากผู้ประกอบการเมื่อซื้อสินค้าภายในงานอีกด้วย

                

            The Marche’ by STYLE Bangkok จัดถึงวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 โซน Eden 1-2, Dazzle และ Beacon 2-3 และ 4 เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 10.00-22.00 น. 

                    ชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook และ Instagram Style Bangkok Fair หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169


                                                                                                                      

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

“Recycling” ธุรกิจมาแรงปี 65 เตรียมส่องสินค้าผู้ส่งออกไทยใน The Marché by STYLE Bangkok

“Recycling” ธุรกิจมาแรงปี 65 เตรียมส่องสินค้าผู้ส่งออกไทยใน The Marché by STYLE Bangkok

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เตรียมโชว์สินค้ารักษ์โลก-รีไซเคิลไทยคุณภาพในงานแสดงสินค้า The Marché by STYLE Bangkok 2022 ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 18-22 พฤษภาคมนี้ ผู้ประกอบการผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นจากหลากหลายวัสดุรีไซเคิล อาทิ ยาง ขยะขวดพลาสติก เศษใบไม้ และดีบุก ตอกย้ำความเป็นธุรกิจน่าจับตาในปี 2565


จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจของกระทรวงพาณิชย์ จากสถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ และข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจ และเศรษฐกิจอื่นๆ พบว่า ธุรกิจรีไซเคิลเป็น 1 ใน 10 ธุรกิจน่าจับตามองในปี 2565 ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยสนับสนุนที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ยังคงมีสาเหตุหลักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และยึดโยงกับพฤติกรรมผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่เป็นหลัก

ปัจจุบัน ธุรกิจรีไซเคิลในไทย ยังมีจํานวนไม่มาก โดยธุรกิจรีไซเคิลในธันวาคม 2564 คิดเป็น 0.04% ของธุรกิจทั้งหมด ที่ดําเนินการอยู่ในประเทศไทย แต่พบว่าผลประกอบการในช่วงปี 2561-2563 ของธุรกิจรีไซเคิลขนาดกลางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และมีจํานวนการจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลในปี 2564 เพิ่มข้ึนจากปีก่อนหน้ากว่า 18.96% ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling)  ในปัจจุบันได้รับอิทธิพล มาจากรูปแบบ การประกอบธุรกิจให้ยั่งยืนด้วย BCG (Bio, Circular and Green) โมเดล โดยประกอบธุรกิจการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เน้นการใช้ทรัพยากร หมุนเวียนเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของประชากร และกระแสอนุรักษ์นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สําคัญของธุรกิจรีไซเคิล

             ในระยะเวลาที่ผ่านมาชาติมหาอำนาจได้ดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเข้มข้นขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อโครงสร้างการค้าโลกให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ได้ออกกฎหมาย ควบคุมการนำเข้า โดยเน้นสินค้ากลุ่ม carbon footprint ต่ำขณะเดียวกัน จีนเองก็ออกมาตรการควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม และรณรงค์ให้ลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน หันไปใช้ พลังงาน สะอาดมากขึ้น

              ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ผลักดันส่งเสริมสินค้าและตลาด BCG ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ขานรับนโยบายตลาดนำการผลิต ซึ่งริเริ่มโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตอบสนองความต้องการของตลาดในกลุ่มผู้บริโภครักษ์โลก

             ในงานแสดงสินค้า The Marché by STYLE Bangkok ครั้งนี้ จะเป็นการรวบรวมผู้ส่งออกสินค้า BCG ไทย รวมถึงผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นรีไซเคิล มาอวดแนวคิดและนวัตกรรมในการผลิ สินค้ารักษ์โลก

บริษัท กรีนดอทบลู หนึ่งในผู้ประกอบการในงานนี้ มีการออกแบบและผลิตผลิตภัณฑ์จากสักหลาดผ้ารีไซเคิลและ ขยะขวดพลาสติก 100% เป็นการช่วยลดขยะพลาสติก และยืดอายุวัสดุให้ใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้คนแยกขยะมากขึ้น

     กรีนดอทบลู ผลิตภายใต้แบรนด์ชื่อ ARTWORK ที่เน้นผลิตภัณฑ์กระเป๋ารีไซเคิล และปีที่แล้วได้แตกแบรนด์ลูกชื่อ HOE TE เพื่อเป็นแบรนด์สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลุ่มวีแกนไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้ แบรนด์ได้รับรางวัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยล่าสุด ได้รับรางวัล Golden Pin Design Award 2020 จากประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นรางวัล พิเศษประจำปี หัวข้อ circular design

    ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อปี 2563 มีปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น 25.37 ล้านตัน และถูกนํากลับมารีไซเคิล ปริมาณ 8.36 ล้านตัน ในจํานวนน้ีเป็น การรีไซเคิลขยะ ประเภทพลาสติก สูงสุด ของปริมาณขยะที่นํามารีไซเคิล โดยธุรกิจรีไซเคิลนับว่ามีแนวโน้มขยายตัวสอดรับกับปริมาณขยะที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

    ส่วนบริษัท RUBBER IDEA ที่จะมาแสดงสินค้าภายในงาน The Marché by STYLE Bangkok ด้วยเช่นกัน มีแนวคิดในการใช้วัตถุดิบ ตั้งต้นจากยางพารา ซึ่งเป็นวัตถุดิบ ส่วนเกินที่เหลือ จากกระบวนการ ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แล้วนํามารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าที่สวยงามทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยีในการผลิตผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล

     การผลิตสินค้าโดยใช้วัสดุจากพืชที่สามารถปลูกทดแทนของเดิมที่หมดไป อย่างการทําผลิตภัณฑ์จากน้ำยางพาราธรรมชาติ ข้างต้น จะช่วยลดการขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากหาทดแทนได้ตลอดเวลา ทั้งนี้แบรนด์ได้ดำเนินการตาม BCG โมเดล ในการลดการใช้พลังงานในการจัดหา และขนส่ง นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตการเกษตรให้สามารถนำมาใช้งานได้มากยิ่งขึ้น

     ในงาน The Marché by STYLE Bangkok เราจะได้พบกับผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่หลากหลายรวมถึงผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์จากดีบุก อาทิ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านและของใช้บนโต๊ะอาหารจากแบรนด์ 5ive Sis ซึ่งปกติแล้วส่งออกไปยังตลาดหลักในจีน ไต้หวัน และตะวันออกกลาง ผลิตภัณฑ์เด่นของแบรนด์ อาทิ งานแก้วไวน์หัว 12 นักษัตร และ ดอกไม้เดือนเกิด  ซึ่งแนวคิดหลัก ของแบรนด์ คือการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดงานฝีมือ และ ทักษะด้านโลหะของคนไทย เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ด้วยการสร้างความต่าง ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยการนำดีบุกซึ่งเป็นโลหะที่หลอมกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่รู้จบ มาหล่อขึ้นรูป เชื่อมประกอบเป็นรูปทรง ตกแต่งลวดลายให้สวยงาม และผลิตโดยคำนึงถึงการใช้วัสดุน้อยที่สุดแต่มีมูลค่ามากสุดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

     ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของ 150 ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ผลิตภัณฑ์ BCG และสินค้ารักษ์โลก ใน The Marché by STYLE Bangkok ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคมนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานแสดงสินค้าที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook และ Instagram Style Bangkok Fair หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

 

                                                                                                       

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

งานแถลงข่าว HFA100 : Asian One Hundred Asia Entrepreneurs Thailand Love project launch

งานแถลงข่าว HFA100 : Asian One Hundred Asia Entrepreneurs Thailand Love project launch





               หลังจากลงนามในข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่าง Mr Steve Wee ประธานกรรมการบริหารของ High Flyer Asia และคุณวราลักษณ์ เนินทราย ประธานกรรมการบริหารของ บริษัท ทาย อิน คอร์เปอเรชั่น จํากัด และ มี Siam Diamond แบรนด์ทุเรียนพรีเมียม สัญชาติไทย ภายใต้การร่วมมือของ คุณกฤติยาณี แม็คคาเทีย เป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน



               High Flyer Asia ก็จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือกับพันธมิตรในเมืองไทย นอกจาก บริษัท ทาย อิน คอร์เปอเรชั่น แล้ว ยังมี Silver Voyage Club และมีโรงแรมมณเฑียร สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และพันธมิตรอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมการประกาศเปิดตัวโปรเจคสุดพิเศษที่จะมีขึ้นในเมืองไทยราวปลายปีนี้กับงานประชุมสุดยอดนักธุรกิจทั่วทั้งเอเชีย HFA100 : One Hundred Asia Entrepreneurs Thailand Love project. และโครงการ Movie World Asia ที่จะเนรมิตบรรยากาศแบบ Ancient Fantacy โลกแห่งเทพนิยาย ที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วเอเชียมาสัมผัสประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ที่เขาใหญ่ โดย  บริษัท ทาย อิน คอร์เปอเรชั่น จํากัด และ Silver Voyage Club ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลสองโปรเจคนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการและประเทศแรกของเอเชีย 


                โดยงานแถลงข่าวครั้งนี้จัดขึ้นในบรรยากาศแบบคลาสสิคของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ในสไตล์ Afternoon Teaa โดยมีแขกคนสำคัญเข้าร่วมอย่างมากมาย อาทิเช่น Mr. Steve Wee  Mr.Peter McAteer คุณกฤติยาณี แม็คคาเทีย คุณพัฒพงศ์ พงศ์พาพัฒน์ คุณวราลักษณ์ เนินทราย Datin Winnie Loo Alvil Poh คุณมณเฑียร ตันตกิตติ์ คุณพันชนะ วัฒนเสถียร คุณจักรพันธ์ รัตนเพชร คุณมาร์ค ธาวิน  คุณ คุณยุพดี ชัยฉัตรพรสุข และคุณอังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ 

#TieInCorporation

#Siamdiamond

#SilverVoyageClub

#exclusiveprivilegeclub

#luxurylifestyleservice

#HFA100Asia

#HighflyerAsia 

#MovieWorldAAsia

#KhaoyaiTourism

#montiensurawong

มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ 36

มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ 36 งานสร้างเสริมคนดีมีคุณธร...