วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565

บุคคลผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2565 รับรางวัลเพชรธาตรี รางวัลเสมานิทัศน์ รางวัลวารีกุญชร และรางวัลจิตแห่งพรหม จัดโดย 5 องค์กร

บุคคลผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2565 รับรางวัลเพชร

ธาตรี รางวัลเสมานิทัศน์ รางวัลวารีกุญชร และ

รางวัลจิตแห่งพรหม จัดโดย องค์กร



องค์กรสภาอนุรักษ์ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นำโดยนายโอมประกาศ เกปาล ประธานองค์กรฯ ชมรมรักษ์ถิ่นสยาม โดยนางสาวกัณฑ์ชิสา แสงปฐวีนันท์ ประธานชมรมฯ ชมรมพัฒนาศาสนาและสังคมไทย โดยนายอำนาจ อารีวรบุตร ประธานชมรมฯ ชมรมพัฒนาและส่งเสริมข้าของแผ่นดิน โดยนางสารจิพาวัลย์ ถิระรมย์ ประธานชมรมฯ และขมรม โดยนางศรีปภัสร์ พงษ์เดชวัฒนาพร ประธานชมรมฯ ร่วมกันจัดงานมอบรางวัลให้แก่บุคคลผู้ทรงคุณค่า ประจำปี พ.ศ. 2565 อันได้แก่ รางวัลเพชรธาตรี รางวัลเสมานิทัศน์ รางวัลวารีกุญชร และรางวัลจิตแห่งพรหม







โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมราชวงศ์ ปณิธาน จรูญโรจน์ นัดดาในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญโรจน์เรืองศรี) เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่องค์กร ภิกษุ สามเณร บุคคล ข้าราชการครู ศิลปิน และดารานักร้อง ที่ทำคุณงามความดี เป็นจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม ณ ห้องเธียเตอร์ อาคารสาธารณสุขวิศิษฏ์ อาคาร 1 ชั้น 2 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565






การมอบรางวัลในวันนี้ หม่อมราชวงศ์ ปณิธาน จรูญโรจน์ ประธาน ได้เดินชมนิทรรศการผลงานของคณะครู อาจารย์ที่มารับรางวัลในวันนี้ที่บริเวณโถงด้านนอกห้องจัดงาน  ท่านเดินชมผลงานของแต่ละบูธ โดยมีอาจารย์เจ้าของผลงาน เป็นผู้อธิบายในผลงานของตนเอง หลังจากที่เดินชมนิทรรศการจนครบทุกบูธแล้ว ก็ได้เวลาฤกษ์ดีในการมอบรางวัล







ก่อนการมอบรางวัลเป็นการแสดงของหนูน้อยวัยน่ารัก เริ่มจาก โขนรามเกียรติ์ ตอน “พระรามตามกวาง” ต่อด้วยการแสดงวัฒนธรรม “รำตารีกีปัส” ตามด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยที่สวยงาม ปิดท้ายด้วย หม่อมราชวงศ์ ปณิธาน จรูญโรจน์ ประธานในวันนี้ มอบรางวัลให้แก่บุคคลผู้ทรงคุณค่า ประจำปี พ.ศ. 2565 อันได้แก่ รางวัลเพชรธาตรี รางวัลเสมานิทัศน์ รางวัลวารีกุญชร และรางวัลจิตแห่งพรหม แก่องค์กร ภิกษุ สามเณร บุคคล ข้าราชการครู ศิลปิน และดารานักร้อง ที่ทำคุณงามความดี เป็นจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม



















 

ภูเก็ตมุ่งหน้ายกระดับเป็นเมืองศูนย์สุขภาพระดับโลก

ภูเก็ตมุ่งหน้ายกระดับเป็นเมืองศูนย์สุขภาพระดับโลก

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ตำบลกะรนเป็นต้นแบบสู่การแหล่งท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ  ฟื้นเศรษฐกิจภูเก็ตหลังวิกฤตโควิด-19  ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตระบุงานวิจัยดังกล่าวจะปูทางภูเก็ตสู่ความเป็น Andaman Wellness Center และช่วยให้ภูเก็ตเบียดเอาชนะสหรัฐอเมริกา สเปน เซอร์เบีย และอาร์เจนติน่า คว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าและบริการสุขภาพนานาชาติ หรือ Specialized Expo ปี 2571

รศ.ดร.พันธ์  ทองชุมนุม  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต  กล่าวต่อที่ประชุมสัมมนาว่าด้วยการขับเคลื่อนพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ กรณีศึกษาตำบลกะรน ณ โรงแรมประมุกโก้ รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต  โดยระบุว่างานศึกษาวิจัยดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ถึง มิถุนายน 2565 โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งในระดับพื้นที่และระดับภูมิภาค จัดกิจกรรมย่อยที่สำคัญรวม 6 กิจกรรมประกอบด้วย 

1.การจัดทำผังข้อมูลด้านสุขภาพในจังหวัดภูเก็ต 2.การศึกษาตลาดส่งเสริมสุขภาพโลก พฤติกรรมและการคาดหมาย 3.การศึกษามาตรการข้อบังคับ บทบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมสุขภาพจังหวัดภูเก็ต 4.การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบบูรณาการของจังหวัดภูเก็ต ภายหลังเกิดวิกฤตการณ์โควิด 19 5.การฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการโรงแรมส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้บริหาร และ 6.การพัฒนาเขตส่งเสริมสุขภาพตำบลกะรนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภาคการบริการและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการระบาดของโควิด 19

 “การศึกษาวิจัยครั้งนี้สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ภาคธุรกิจและหน่วยราชการ เช่น เครือข่ายชุมชนที่ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ตลอดจนถึงชมรมธนาคารภูเก็ตที่จะมารให้คำปรึกษาทางการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพของตำบลกะรนให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการขับเคลื่อนในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดและพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยต่อไป

นายพิเชษฐ์  ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การพัฒนารูปแบบของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่ทำกันหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้พยายามที่จะจัดทำหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการด้วยการ Up Skill, Re Skill และ New Skill ให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในสถานประกอบการ โรงแรม ศูนย์ Wellness ต่าง ๆ ในโซนอันดามัน กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มของสมาคมโรงแรม ที่พัก ส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งจะขับเคลื่อนในเรื่องของ Andaman Wellness Corridor หรือ AWC ให้เป็นศูนย์ดูแลด้านสุขภาพของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในโซนอันดามัน แล้วก็หวังที่จะพัฒนาเศรษฐกิจทางด้านนี้ให้เติบโตเทียบเท่ากับเขตพัฒนาเศรษฐกิจตะวันออกหรือ EEC  

อีกกลุ่มเป็นของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มนี้ก็จะทำเป็นศูนย์ Health Wellness Plaza ที่ตำบลไม้ขาว บนเนื้อที่ 141 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าโดยครม.อนุมัติในหลักการวงเงินงบประมาณ 1,411 ล้านบาท ให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานที่ ปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปี 2571 ซึ่งจะสอดคล้องกับจังหวัดที่เสนอตัวเป็นผู้จัดงาน Specialized Expo ในปี 2571 ซึ่งมีคู่แข่ง 5 ประเทศได้แก่ ประเทศเซอร์เบีย สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา สเปน และไทย โดยของไทยจะจัดขึ้นที่ภูเก็ต

ในช่วงวันที่ 25-29 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทางคณะกรรมการที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดงาน มีกำหนดเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเราจะยกเอาประเด็นเรื่องของ Wellness เป็น  Specialized บริการที่โซนอันดามันให้บริการต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะฉะนั้นศูนย์ที่เราตั้งขึ้นที่ตำบลไม้ขาวก็จะเป็นศูนย์พักฟื้นผู้ที่หายป่วยหรือที่ออกจากโรงพยาบาล ดูแลผู้ป่วยหลังเกษียณ ดูแลผู้ที่พักฟื้นหลังการผ่าตัด ดูแลกลุ่มที่รักสุขภาพ เช่น ฟิตเนส โยคะ สปา โภชนาการ  นวดสุขภาพ รวมทั้งเกี่ยวกับการชะลอวัย พวกอาหารเสริม การดูแลสุขภาพ  

งานศึกษาวิจัยเรื่องรูปแบบการขับเคลื่อนพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของมหาวิทยาลัย    สงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บพท. นับว่ามีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดในการที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตยกระดับเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13  อีกทั้งยังจะมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญในการทำให้จังหวัดภูเก็ต ได้รับสิทธิ์ในการจัดงานแสดงสินค้าและบริการสุขภาพนานาชาติ หรือ Specialized Expo ปี 2571 ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-17 มิถุนายน 2571 ซึ่งจะช่วยดึงดูดเงินตราเข้าประเทศได้ไม่น้อยกว่า 49,000 ล้านบาท

ขณะที่ เรือเอกเจด็จ วิชรศรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกะรน จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตำบลกะรนมีศักยภาพในการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีผู้ประกอบการ ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็ง แต่ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดวิกฤตกับการท่องเที่ยวของตำบลกะรน ส่งผลทำให้รายได้ของผู้ประกอบการและประชาชนตำบลกะรนต้องลดลงเป็นอย่างมาก  เทศบาลจึงได้ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มศักยภาพของธุรกิจการท่องเที่ยวของตำบลกะรนให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น โดยสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดภูเก็ต การดำเนินโครงการการศึกษารูปแบบการขับเคลื่อนพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกรณีศึกษาตำบลกะรน (Karon Wellness Tourism City) ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ภายใต้การสนับสนนุนงบประมาณหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) นั้น จะช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพของตำบลกะรนในอนาคต

ทางด้าน นายจาดุร อภิชาตบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิ บพท. เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนงานวิจัยระดับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อยกระดับสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ โดยกำหนดให้ตำบลกะรนเป็นพื้นที่นำร่อง จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ในการพลิกฟื้นจังหวัดภูเก็ตจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ไปสู่ความเป็น wellness center เต็มรูปแบบ ที่จะมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้เดินทางเข้าไปใช้บริการ ขณะเดียวกันก็จะช่วยกระจายรายได้ กระจายความกินดีอยู่ดีให้แก่คนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในตำบลกะรน ซึ่งถูกกำหนดเป็นพื้นที่นำร่อง

 


ททท. ชวนชิล! “สบายใจสไตล์จันท์” กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออก เจาะกลุ่ม Music Lover , Food Lover

ททท. ชวนชิล! “สบายใจสไตล์จันท์” กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออก เจาะกลุ่ม Music Lover , Food Lover

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ร่วมกับจังหวัดจันทบุรีเทศบาลเมืองจันทบุรี และบริษัท คอม อาร์ต โปรดักชั่น จำกัด จัดงาน “สบายใจสไตล์จันท์” ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565       ระหว่างเวลา 17.00 – 21.00 น. ณ สนามสามเหลี่ยม(ทุ่งนาเชย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 

โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้จังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดเป้าหมายหลักของการเดินทางท่องเที่ยว กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดการใช้จ่ายซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยวในพื้นที่พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับเสน่ห์เมืองจันทบุรีความเป็นเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกทั้ง ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีพร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของกระแสการท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบ Lifestyle เจาะกลุ่ม Music Lover กลุ่ม Food Lover กลุ่มผู้ชื่นชอบการทำกิจกรรมการแจ้ง (OutdoorActives) กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออก และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

                 การจัดกิจกรรม  “สบายใจสไตล์จันท์“ พร้อมตอบรับเทรนด์การท่องเที่ยวในยุคนี้ แบบ “สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก -East at Ease”  ให้ครบรสชาติของการเดินทางแบบ สบ๊าย สบาย สายชิลล์ : เที่ยวทะเล สบายกาย , สบ๊าย สบาย สายเขียว : เที่ยวธรรมชาติ สบายตา และ สบ๊าย สบาย สายกิน : เที่ยวไปกินไป สบายพุง จึงนำมาสร้างสรรค์เป็น 5 โซนหลักภายในงาน คือ Café Mania เมืองสายหวาน รวบรวมคาเฟ่เก๋ไก๋สไตล์จันทบุรี และคาเฟ่ดังจากโลกโซเชียล Cozy Camping ดื่มด่ำกับบรรยากาศแคมปิ้งที่สบ๊ายสบาย พร้อมสัมผัสอาหารปิ้งย่างและงานคราฟท์โดนใจ Chic on The Beach มุมเที่ยวทะเลสุดชิค พร้อมอาหารทะเลที่อร่อยจนต้องร้องขอชีวิตCreative Garden สวนสวยสร้างสรรค์ นำเสนอสวนผลไม้ของภาคตะวันออก อาหารประยุกต์จากผักผลไม้สมุนไพร และอาหารออร์แกนิค Chill Stage เวทีฟังดนตรีสบ๊ายสบายจากหลากหลายศิลปินสายชิลล์ อาทิ The Toys ,Season Five , Polycat

               กิจกรรม “สบายใจสไตล์จันท์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 ณ สนามสามเหลี่ยม(ทุ่งนาเชย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของภาครัฐ มีการเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และสำหรับ    ผู้เข้าชมงานพร้อมลุ้นรับของรางวัลและของที่ระลึกมากมาย ฟรี!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Comm Arts Production www.facebook.com/Commartsproduction#สบ๊ายสบายภาคตะวันออก #สบายใจสไตล์จันท์

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Sound Concept Motor Shows 2022 งานอุตสาหกรรมประดับยนต์เครื่องเสียงติดรถยนต์ไทยที่ยิ่งใหญ่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ MCC HALL THE MALL งามวงศ์วาน

Sound Concept Motor Shows 2022 งานอุตสาหกรรมประดับยนต์เครื่องเสียงติดรถยนต์ไทยที่ยิ่งใหญ่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ MCC HALL THE MALL งามวงศ์วาน

                งานSound Concept Motor Shows 2022 งานอุตสาหกรรมประดับยนต์เครื่องเสียงติดรถยนต์ไทยที่ยิ่งใหญ่ วันที่ 26 มิถุนายน 2565 นี้ ที่ MCC HALL THE MALL งามวงศ์วาน คนรักรถ ไม่ควรพลาด ภายในงานพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแสดงชิ้นงานการติดตั้งเครื่องเสียงติดรถยนต์สวยงามจากผู้ประกอบการในเครือข่ายประดับยนต์,  การประกวดชิ้นงานการติดตั้ง,   การแข่งขันคุณภาพเครื่องเสียงเสียงติดรถยนต์ ประเภท ฟังเพราะนอกรถ, การประกวดงานติดตั้งเครื่องเสียงสวยงาม, ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสถึงนวัตกรรมด้านเครื่องเสียงติดรถยนต์และงานติดตั้ง ที่ออกแบบอย่างมาตรฐาน สัมผัสและฟังเสียงรถแต่ละคันอย่างใกล้ชิด   นอกจากนี้ทางองค์กรเครือข่ายฯ ยังได้จัดกิจกรรมยังมีการประกวดสาวสวย Miss sound concept motor show 2022  และ Kids Fashion show ด้วย

 

            นายสายัน ยวงทอง ประธานเครือข่ายกลุ่มอุตสาหกรรมประดับยนต์เครื่องเสียง กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมประดับยนต์เครื่องเสียง หลังจากที่ซบเซากันมานานจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาหลายปี ทำให้รายได้หมุนเวียนในสายอาชีพประดับยนต์ลดถอยลงไปกว่า 50% จะค่อยๆฟื้นตัวและกลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง 

งานในครั้งนี้นอกจากเป็นรูปแบบการแสดงผลงานแล้วยังมีกิจกรรมประกวด การแข่งขันเพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาสินค้า พัฒนาฝีมือ พัฒนางานติดตั้งให้มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอย่างสูงสุด  ส่งเสริมการประกอบอาชีพด้านประดับยนต์เครื่องเสียง สร้างรายได้หมุนเวียน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศตานโยบายของภาครัฐ  เข้าชมงานฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ชม ชิม ฟินที่ลับแล กับแคมเปญ “ลับแลเลอค่า&Durian Lover” และงานเทศกาลทุเรียนผลไม้เมืองลับแล ประจำปี 2565 (มหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล)

ชม ชิม ฟินที่ลับแล กับแคมเปญ “ลับแลเลอค่า&Durian Lover” และงานเทศกาลทุเรียนผลไม้เมืองลับแล ประจำปี 2565 (มหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล) 

        นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ และทีม อสมท. (Mcot) พร้อมด้วยนายอำเภอลับแล เยี่ยมชมสวนทุเรียนเพชรพิชัย สวนคุณปกรณ์ สวนป้าเรียน สวนบ้านบนดอยอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2565

         โดยในห้วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน จะเป็นเทศกาลผลไม้ของอำเภอลับแล โดยเฉพาะทุเรียนที่กำลังได้รับความนิยมชมชอบจากนักท่องเที่ยวในขณะนี้ ส่งผลให้จำนวนห้องพักที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีอัตราการเข้าพักค้างช่วงหยุดยาว 3-5 มิถุนายน 2565 นี้ มากกว่า 90% และสร้างความคึกคักให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์มากพอสมควร

              การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาฟินที่ลับแล แคมเปญ “ลับแลเลอค่า&Durian Lover” และงานเทศกาลทุเรียนผลไม้เมืองลับแล ประจำปี 2565 (มหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล)

         โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ กำหนดจัดกิจกรรม “ลับแลเลอค่า&Durian Lover” เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว โดยกระตุ้นการท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่รองจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยการนำเสนอจุดขายทุเรียนของชาวลับแล ซึ่งทุเรียนหลง-หลินลับแลอุตรดิตถ์ และยังเป็นสินค้า GI ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของจังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถสร้างมูลค่าทำให้เกิดการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนเดินทางเข้ามาในพื้นที่อุตรดิตถ์ช่วงเดือนมิถุนายน

    ทั้งนี้ สำนักงานเทศบาลตำบลหัวดง ยังมีการจัดงานเทศกาลทุเรียนและผลไม้เมืองลับแล (มหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล) ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ณ อาคารหอประชุมตลาดกลางผลไม้  (OTOP) อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมเพื่อเป็นการส่งเสริมเผยแพร่ชื่อเสียงของทุเรียนเมืองลับแล และกระตุ้นให้เกษตรกรปรับปรุงคุณภาพผลผลิตทุเรียนให้ดีขึ้นตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวอำเภอลับแลและจังหวัดอุตรดิตถ์อีกทางหนึ่ง

นน

      โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ การประกวดทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง หลงลับแล-หลินลับแล หมอนทอง ทุเรียนยักษ์ กระเช้าผลไม้และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน การแข่งขันกินทุเรียน การประกวดธิดาทุเรียนหลงลับแล การแสดงทางวัฒนธรรม และตลาดทุเรียน 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานเทศบาลตำบลหัวดง โทร.055-427-222

      นอกจากนี้ ททท.สำนักงานแพร่ (แพร่-อุตรดิตถ์) ได้ร่วมกับผู้ประกอบการสวนทุเรียนและร้านคาเฟ่ทุเรียนในพื้นที่อำเภอลับแล กำหนดจัดกิจกรรม “ลับแล เลอค่า&Durian Lover” เพื่อเชิญชวนท่องเที่ยวต่างจังหวัดมาสัมผัสเสน่ห์ของอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ และฟินกับบุฟเฟ่ต์ทุเรียน/เมนูทุเรียน ณ สถานประกอบการที่ร่วมกิจกรรมฯ ระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2565 โดยเงื่อนไข เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด แจ้งขอรับสิทธิ์และลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมตามเงื่อนไขที่ ททท.สำนักงานแพร่ อุตรดิตถ์กำหนดและจะได้รับสิทธิ์คูปองส่วนลดผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 150 บาท นำไปใช้กับสวนทุเรียนและสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย สวนเพ็ชร์พิชัย     (บุฟเฟ่ต์ 599 บาท), บ้านสวนคุณปกรณ์ (บุฟเฟ่ต์ 599 บาท), สวนทุเรียนและสถานประกอบการที่เมื่อซื้อหรือใช้จ่ายครบ 500 บาทขึ้นไป อาทิ สวนป้าเรียน,  สวนบ้านบนดอย มาฟินที่ลับแล แคมเปญ “ลับแลเลอค่า&Durian Lover” และงานเทศกาลทุเรียนผลไม้เมืองลับแล ประจำปี 2565 (มหัศจรรย์ทุเรียนหลง-หลินลับแล) บ้านสวนธันวา, เฮือนลับแล และม่อนลับแล (จำกัด 400 สิทธิ์) 

         นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ที่ Inbox Facebook : ททท.สำนักงานแพร่ หรือ ทางไลน์แอด Official ของ ททท.แพร่สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 054-521-118 ,054 -521-127 และสถานประกอบการที่เข้าร่วมฯ 

     นอกจากนี้หากต้องการให้จัดรายการนำเที่ยวท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวลับแลหรือในจังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถติดต่อและสำรองได้ที่ บริษัทที่้นี่วีไอพีทัวร์        โทร. 096 329 3641


วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

SIAMSQUARE ตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง LIVING LEGEND

SIAMSQUARE ตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 

LIVING LEGEND

สยามสแควร์ศูนย์การค้าแนวราบแห่งเดียวใจกลางเมืองที่มีตำนานอยู่คู่กับผู้คนมาทุกยุคพร้อมความทรงจำที่มีความชัดเจน อบอวลความรู้สึกอยู่ทั่วทุกตารางเมตรในแต่ละช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งการเป็นTREND SETTER ที่ให้อัพเดทเทรนด์ได้ก่อนใคร, LEARNING แหล่งการเรียนรู้ไม่จำกัด, CONNECT เชื่อมโยงทุกพื้นที่ของทุกGeneration, SURPRISE ในความแปลกใหม่ สร้างความตื่นเต้นตลอดเวลาและมีความUNIQUE ไม่เหมือนใคร  ทำให้สยามสแควร์มีชีวิตชีวามีความอบอุ่น รวมทั้งความสนุกแปลกใหม่ และทั้งหมดนี้คือ  SIAMSQUARE “LIVING LEGEND - ตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

รศ.ดร.วิศณุ  ทรัพย์สมพล  รองอธิการบดี ด้านการจัดการทรัพย์สินและกายภาพ จุฬาฯ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาพื้นที่สยามสแควร์ให้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางธุรกิจการค้าย่านปทุมวัน ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงให้มีความทันสมัย มีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมทั้งตอกย้ำจุดแข็งที่ผ่านมาของสยามสแควร์ โดยเป็นย่านการค้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืนต่อไป ซึ่งทุกคนจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่

           วันนี้พร้อมต้อนรับให้ทุกคนได้พบกับประสบการณ์ใหม่ SIAMSQUARE WALKING STREET  ที่จะมอบความสุขให้เดินสนุกกว่าเดิมในบรรยากาศมีชีวิตชีวา ให้ความเพลิดเพลินกับการเดินช้อปปิ้งได้อย่างต่อเนื่อง พบกับร้านค้าสองข้างทางตลอดเส้นทางเชื่อมต่อทุกพื้นที่ให้ได้สนุกเต็มอิ่ม โดนใจกับทุกองศา ตระการตากับจุดเช็คอินมากมาย พิเศษเปิดพื้นที่ให้คนเดินบนถนนซอย 7 แกนกลาง Walking Street ในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

โดยวันนี้ SIAMSQUARE ตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพิ่มที่จอดรถใน Parking Node ทั้งในอาคารสยามสเคป สยามกิตติ์ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน และวิทยกิตติ์ รวมกว่า 3,000 คัน

ปรับทัศนียภาพให้สวยงามยิ่งขึ้นและปลอดภัย โดยการนำสายสื่อสารและสายไฟฟ้าลงใต้ดิน พร้อมปรับปรุงทางเดินทางเท้าให้กว้างขึ้น เพื่อความสะดวกและสนุกทุกย่างก้าว

เพิ่ม Green Area พื้นที่สีเขียวให้ได้ร่มเย็นผ่อนคลายกับสวนใจกลางเมือง

จัดจุดชาร์ตรถ EV Charger รวม 3 Stations

ออกแบบพื้นที่เชื่อมต่อเป็นUniversal Design

มิกซ์ยูสใจกลางสยามสแควร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Lifelong Learning” มีการออกแบบที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นตัวตนของโครงการในเชิงสถาปัตยกรรมที่แสดงออกมาที่ Façade Gate หรือประตูทางเข้าของโครงการเปรียบเสมือนประตูที่จะนำเข้าโลกแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เปิดประสบการณ์ใหม่ทุกย่างก้าวกับมุมมองใหม่ที่ไม่เหมือนใคร โดยมีไฮไลท์ที่ชั้น 9 L.A.M.P (Learning & Meeting Place) ในคอนเซ็ปต์ “Urban Park” ที่เป็นพื้นที่ Meet,Learn, Relax พร้อมพื้นที่สร้างสรรค์ Co-Space สำหรับทุกคน และที่ไม่ควรพลาดคือ ชั้น 10 SkyScape  พื้นที่Outdoor ที่มองเห็น Panoramic View แห่งแรกในสยามสแควร์

เปิดให้บริการแล้ว ทั้งออฟฟิส ,Beauty&Wellness ชื่อดัง ,ร้านค้า LifeStyle ที่หลากหลาย และ Learning Hub อาทิ The Newton Sixth Form School เป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทย The Essence School และเร็วๆ นี้เตรียมพบกับ Carnegie Mellon University สถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย

FLAGSHIP STORE หลากหลายแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง มีความพิเศษเฉพาะที่สยามสแควร์เท่านั้น สร้างสีสันให้สยามสแควร์เป็นแหล่งรวมFLAGSHIP STORE ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์อินเตอร์มากมาย อาทิ SHU  มาในคอนเซปท์ Fashion Runway & Hangout Café  ออกแบบให้ลูกค้าได้สนุกกับสินค้าทั้ง รองเท้า เสื้อผ้าแฟชั่นในบรรยากาศเหมือนเดินช้อปสินค้าอยู่ในแกลอรี่ และคาเฟ่บรรยากาศสไตล์ “Glass House & Fashion Runway cafe”  SOS & SENSE  multibrand storeที่รวบรวมมัลติแบรนด์ไว้ถึง 500 แบรนด์ ทั้งชั้น1-3 กับ big-brand Zone ตกแต่งทันสมัยสวยงาม  พบกับโซนใหม่ “Cycle by SOS” บน ชั้น 4  ด้วย concept ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นมือสอง ที่ให้สนุกช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินจุใจ Matchbox Multi Brand Store ตกแต่งด้วบรรยากาศที่สวยงาม สดใส ด้วยขนาดใหญ่ที่สุดให้เดินช้อปทั้งหมด 3 ชั้น พร้อมยกทัพ Multi-Brand จัดเต็มกว่า 130 แบรนด์ รวบรวมแบรนด์ดังน่าช้อปกว่า 3,000 รายการ เยอะที่สุดในทุกสาขา FIRSTER BEAUTY จาก KING POWER พบกับ  ไอเทมบิวตี้และไลฟ์สไตล์จากแบรนด์สุดUnique ทั่วโลกให้ได้รู้เทรนด์ก่อนใครรู้ใจก่อนตัวคุณเองกับเทรนด์ช้อปปิ้งแห่งอนาคต TOP CHAROEN ในคอนเซ็ปต์ ”Simple Fashion X Smart Vision” ตอบโจทย์ทุกแฟชั่น แก้ปัญหาด้านสายตาอย่างชาญฉลาดเป็นแหล่งรวมแว่นตาและเลนส์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย ที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นล้ำสมัยที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลายหลาย พร้อมบริการ Co-working Space  ใจกลางสยามสแควร์  และอีกหลายแบรนด์ ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

สยามสแควร์มีความมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์ พื้นที่แห่งโอกาส” ในการสนับสนุนบ่มเพาะให้ธุรกิจแบรนด์เล็กๆ ได้มีจุดเริ่มต้นปักหมุดพื้นที่ใจกลางเมืองและมีโอกาสสร้างแบรนด์ เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยมีหลากหลายแบรนด์ที่เติบโตในพื้นที่สยามสแควร์ ที่มีการพัฒนาไม่หยุดนิ่งตลอดเวลาทำให้สามารถยืนหยัดเทียบเคียงแบรนด์อินเตอร์ได้ และยังคงสนับสนุนเมล็ดพันธ์เล็กๆ ให้เติบใหญ่ต่อไปอย่างยั่งยืน ด้วยเสน่ห์ของสยามสแควร์ที่มีความแตกต่างทั้งในด้านความหลากหลาย ด้านแบรนด์สินค้าต่างๆ แล้วยังมีร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มที่ส่งเสริมให้พื้นที่สยามสแควร์เป็นพื้นที่สำหรับทุกคน โดดเด่นด้วยพื้นที่จัดกิจกรรมที่มีความหลากหลายรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งได้เปิดพื้นที่ใหม่ขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น

                และพลาดไม่ได้กับกิจกรรม SIAM WALKING STREET FEST  จัดเต็มทุกพื้นที่ ครั้งแรกกับความตื่นตาตื่นใจกับสีสันของบอลลูนหลากสีขบวนพาเหรดของเหล่า Cosplay , สนุกเพลิดเพลินกับการแสดง Street Performance แสดงโชว์ต่างๆ ร้องเพลงและเล่นดนตรี ร่วมด้วยโชว์รถอะนิเมะจากกลุ่ม Itasha  และการเปิดท้ายขายของจาก Influencer พร้อมจัดเต็มกับอาหารหลากหลายเมนูกับ กับร้านเด็ดชื่อดัง FOOD&FASHION สุดชิค ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครรอทุกคนมารับประสบการณ์ใหม่ได้แล้ววันนี้ พบกันที่ SIAMSQUARE “LIVING LEGEND - ตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

#SIAMSQUARELIVINGLEGEND

#SIAMSQUAREWALKINGSTREET     

 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง  มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ  รวมทั้งเสริมสร้างค...