วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2564

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข กระตุ้นเยาวชนวิถีใหม่ (ยุค New Normal) รักษ์สุขอนามัย สู้ภัยโควิด-19 มอบของขวัญวันเด็ก แด่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบให้กับเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2564

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข กระตุ้นเยาวชนวิถีใหม่ (ยุค New Normal) รักษ์สุขอนามัย สู้ภัยโควิด-19  มอบของขวัญวันเด็ก แด่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบให้กับเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2564


      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสัก กอแสงเรือง กรรมการตรวจสอบ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์  กรรมการและรองเลขาธิการ และนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเหรัญญิก  พร้อมด้วยผู้บริหารมูลนิธิฯ  เข้าพบ นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  เพื่อมอบชุดของขวัญวันเด็ก ประกอบด้วย สมุด ดินสอ และไม้บรรทัด แด่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  จำนวน 180,000 ชิ้น นำไปแจกจ่ายแก่เด็กและเยาวชน เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2564  “โดยรูปแบบชุดของขวัญในปีนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทำเป็นสื่อรณรงค์ กระตุ้นให้เยาวชนวิถีใหม่ (ยุค New Normal) รักษ์สุขอนามัย สู้ภัยโควิด 19”  ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม 2564 


            โดยเมื่อวันอังคารที่ 5 มกราคม 2564  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิฯ  ร่วมในพิธีมอบชุดของขวัญวันเด็ก ประกอบด้วย สมุด ดินสอ และไม้บรรทัด ให้กับนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมมอบเครื่องเหลาดินสอมอบให้แก่โรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เยาวชนให้ใช้ในห้องเรียน  จำนวน 270 โรงเรียน  โดยมีผู้แทนโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ  รวมทั้งจัดให้มีการส่งชุดของขวัญวันเด็กของมูลนิธิฯ เพื่อมอบให้กับเยาวชนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ  ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทุกจังหวัด  รวมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบชุดของขวัญวันเด็กแก่เยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2564 รวมจำนวน  5,400,000 ชิ้น พร้อมมอบเครื่องเหลาดินสอแก่โรงเรียนต่างๆ รวมจำนวน 3,720 เครื่อง คิดมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 32.8 ล้านบาท โดยมี อาสาสมัคร และอาสาฯ ศิลปิน นำโดย  นายกวินรัฎฐ์ ยศอมรสุนทร (หยวน)  และนายอชิต ธีรวิทยตระกูล (อู๊ด-เป็นต่อ) ร่วมแจกจ่ายชุดเครื่องเขียนในวันนี้  รวมทั้งมูลนิธิฯ ได้จัดให้มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิทั้งสองฝั่ง และขอความร่วมมือผู้ร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19


         การให้ของขวัญวันเด็ก เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่มูลนิธิฯ ได้จัดทำต่อเนื่องมา 62 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ด้วยตระหนักดีว่า เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติไทยในอนาคต  และขอส่งความรัก ความปรารถนาดีให้เด็กๆ ทุกคนเป็นเด็กดี มีคุณธรรม กตัญญู ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง มีจิตอาสา และสมัครสมานสามัคคีร่วมกันสร้างชาติ ดังคำขวัญวันเด็กของท่านนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2564 ที่มอบให้ คือ “เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


ป่อเต็กตึ๊ง รุกภารกิจ “สร้างชีวิต” ต่อเนื่อง จัดโครงการร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน แก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ระยะที่ 2

ป่อเต็กตึ๊ง รุกภารกิจ “สร้างชีวิต” ต่อเนื่อง จัดโครงการร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน แก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ระยะที่ 2 มอบวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนยากจน 17 จังหวัดภาคเหนือ 


  
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเหรัญญิก เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุรพงศ์  เสรฐภักดี กรรมการ และ นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี มอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนภาคเหนือ โดยกำหนดลงพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดแรก  รวม 40 ครัวเรือน รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 546,280 บาท (ห้าแสนสี่หมื่นหกพันสองร้อยแปดสิบบาทถ้วน) เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ ”บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ”  โดยมี นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย นายนิวัติ น้อยผาง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมในพิธี ณ หอประชุมประชาคมอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564



        การดำเนินการ “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์  จะจัดทีมลงพื้นที่ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความรู้ ทักษะ และมีวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดหาอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนสร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งในปี 2562 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน ได้ริเริ่มโครงการฯ (ระยะที่ 1)  ลงพื้นที่ 17 จังหวัดภาคกลาง มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนยากจน ทั้งสิ้น 98 ครัวเรือน โดยมอบแล้วเสร็จในปี 2563 รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 1,288,712 บาท



        โดยในปีงบประมาณ 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และกรมพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก ลำพูน  ลำปาง น่าน แพร่ พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน  โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย 500 ครัวเรือน รวมงบประมาณดำเนินการเป็นเงิน 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) 



       กว่า 111 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ รวมทั้งการมอบโอกาสทางอาชีพ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุก ๆ ด้าน  ดังคำขวัญมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิตต่อไป



       ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 
แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418 
ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

“เอด้า ชุณหวชิร” สาวน้อยเสียงใส วัย 15 ปี ทูตยุวชนสเปเชียลโอลิมปิคไทย

“เอด้า ชุณหวชิร” สาวน้อยเสียงใส วัย 15 ปี

ทูตยุวชนสเปเชียลโอลิมปิคไทย

            หลังจากที่สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทย ได้เผยแพร่  MV ผลงานเพลง From the Heart  หรือชื่อภาษาไทย “ขอบคุณที่ร่วมทาง” บทเพลงส่งต่อกำลังใจและสร้างความตระหนักเกี่ยวกับศักยภาพ   การดำเนินชีวิตของผู้พิการทางสติปัญญา โดยตั้งใจเผยแพร่ความเข้าใจผ่านตัวแทนนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยวัยต่าง  ที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท มุ่งมั่นของครอบครัว ครู ผู้ดูแล และ เพื่อนร่วมงาน ที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตของพวกเขา  เป็น MV ที่ทำให้คนดูน้ำตาซึมมากที่สุดชิ้นหนึ่ง ขับร้องโดย ทูตศิลปิน ไบร์ท วิน จาก GMMTV และ เอด้า ชุณหวชิร สาวน้อยเสียงใส ทูตยุวชนสเปเชียลโอลิมปิคไทย

           ถึงแม้จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ “เอด้า ชุณหวชิร” สาวน้อยเสียงใส วัย 15 ปี ทูตยุวชนสเปเชียลโอลิมปิคไทยคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดา เสียงร้องเพลงอันทรงพลังนั้นสร้างชื่อเสียงในระดับโลกมาแล้ว​ ในการแข่งขัน World Championships of Performing Arts  ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

           “เอด้า ชุณหวชิร ” เปิดเผยว่า ตนเริ่มเรียนร้องเพลงด้วยความชอบ ตอนเรียนอยู่ชั้นป 2 หลังจากนั้นมีไปแข่งขันที่ต่างประเทศ ตอนรียนอยู่เกรด 7 ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขันสามารถเข้ารอบ semi Final เพลงที่เข้าประกวดได้รับรางวัล 2 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน, 4 เหรียญทองแดง, โล่ 2 รางวัล และได้รับ Scholarship อีกด้วย หลังจากนั้น เข้ามาทำเพลง กับ Special olympics   โดยมีครูกานต์เป็นโค้ช คุณเบน ซิลลี่ฟูลส์ เป็นผู้ประพันธ์เพลง คุณรัชนีวรรณ บูลกุล เป็นที่ปรึกษา และได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ ( คุณพิชัย - คุณสุทธาสินี ชุณหวชิร ) ตอนนี้เอด้ากำลังศึกษาอยู่เกรด 10 โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดีค่ะ

          ต่อมาดร. นริศ ชัยสูตร  นายกสมาคมฯ ได้ชวนเอด้ามาร่วมร้องเพลงให้กับทางสมาคม ตั้งแต่ MV : Spotlight เมื่อต้นปี 2020  ตามมาด้วย "Thank you my Silent Heroes"  เป็นการร้องร่วมกันระหว่าง ไบร์ท วิน และ เอด้า   ส่วนเพลง "ขอเป็นคนหนึ่ง" เวอร์ชั่น คริส-สิงโต-เอด้า เป็น MV ให้กำลังใจซึ่งกันและกันในช่วงโควิดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อกำใจให้คนไทยทุกคนในช่วงเวลาที่ต้องการกำลังใจ    รวมถึงส่งกำลังใจถึงทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์และผู้พิการทางสติปัญญา  ตามมาด้วย  MV : “Unified Aerobic Dance ” โดยนำเสนอกิจกรรมการเต้นแอร์โรบิคส์ในรูปแบบของยูนิฟายด์ที่ประกอบด้วยผู้ที่ไม่มีความพิการและผู้ที่มีความพิการทางสติปัญญามาออกกำลังกายร่วมกัน   และล่าสุด MV ผลงานเพลง From the Heart            และในอนาคต เอด้า อยากจะเรียนทางด้าน Business ช่วงนี้ก็เรียนทาง Science แล้วก็ Bio มากขึ้นค่ะ สำหรับ​เรื่องการร้องเพลง เอด้ามองว่าเป็นงานอดิเรก อาจจะ​มีปล่อยซิงเกิ้ล​ส่วน​ตัว​ออกมา​ค่ะ

        "เอด้ามีโอกาสได้คลุกคลีกับน้อง ๆ นักกีฬากีฬาสเปเชียลโอลิมปิค   ยิ่งทำให้เอด้าอยากส่งต่อพลังและกำลังใจ​ผ่านบทเพลง​พิเศษ​ให้ทุกคนได้เข้าใจน้องๆ ให้มากขึ้น  พวกเค้าน่ารักมาก หนูเคยเห็นพวกเค้าเล่นแบตมินตันกัน เค้าเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่​ว่าว่าจะแพ้หรือชนะ เค้าดีใจในทุกอย่างที่เค้าทำ​   อยากขอให้พวกเรา​ร่วมมือกันช่วยเหลือได้ในการพัฒนาเรื่องศักยภาพ​ความสามารถของเค้า ช่วยให้เขาอยู่​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​สังคมกับเราได้ตามปกติค่ะ​

        เอด้าขอฝากผลงาน​เพลงของส่งกำลัง​ใจให้นักกีฬา​สเปเชียล​โอลิมปิค​ไทยด้วยนะคะ​ เพลง  "ขอเป็นคนหนึ่ง" ยอดวิวประมาณ  1.4 ล้าน​ และ​ เพลง "Thank you my Silent Heroes" เพลงนี้ทำออกมา 2 เวอร์ชั่น คือ แนวดนตรี และ อะคูสติก แบบเบาๆ ใช้กีต้าร์ เพลงนี้ ยอดวิวประมาณ  1 ล้านกว่า  ทั้งสองเพลงได้รับการตอบรับดีมาก รู้สึกดีใจค่ะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะให้กำลังใจทุกคนค่ะ

• เพลง From the Heart  https://youtu.be/PHg8OOf7WNM

• เพลง Thank you my Silent Heroes https://youtu.be/iJ5heWUSHMs

• เพลง  ขอเป็นคนหนึ่ง https://youtu.be/9t48Wyw143U

• เพลง  Unified Aerobic Dance https://youtu.be/AVB5Zmelulw

• เพลง Spotlight https://youtu.be/OW6GM4A0XjQ

     สำหรับผู้ที่สนใจสนับสนุนกิจกรรมสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิค สามารถบริจาคได้ที่กรุงไทย เลขที่ 986-8-12483-2 ชื่อบัญชี "สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย" พร้อมส่งใบ pay-in และแจ้งชื่อ-สกุล เลขประจำตัวผู้เสียภาษา 13 หลัก และที่อยู่จัดส่งใบเสร็จรับเงินมาที่อีเมล solympicsthai@gmail.com (ใบเสร็จสามารถนำไปหักภาษีได้ 2 เท่า) ต้องการสอบถามเพิ่มเติมติดต่อ คุณสถาพร ก่อแก้ว 081-9024 636

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายมอบถุงยังชีพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 3 จังหวัดภาคใต้ต่อเนื่อง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายมอบถุงยังชีพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 3 จังหวัดภาคใต้ต่อเนื่อง



                    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่องอีก 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง และสุราษฎร์ธานี รวม 9,000 ชุด  รวมมูลค่าเป็นเงิน 3,150,000 บาท  (สามล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากภัยดังกล่าว 2 ราย รายละ 20,000 บาท รวม 40,000 บาท พร้อมด้วยมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัดภาคใต้  มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต 2 ราย รายละ 5,000 บาท รวม 10,000 บาท โดยมีมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วย สมาคมพาณิชย์จีน จ.นครศรีธรรมราช สมาคมจงฮั้ว ทุ่งสง มูลนิธิกุศลสถานตรัง และ มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ  ระหว่างวันที่ 22 – 28 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา



                  นับตั้งแต่ที่ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก สร้างความความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 15,000 ชุด เพื่อนำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้ง 4 จังหวัด  พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากภัยดังกล่าว รายละ 20,000 บาท รวม 22 ราย พร้อมด้วยมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัดภาคใต้  มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต รายละ 5,000 บาท  รวมงบประมาณเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 5.6 ล้านบาท





                โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา นายอรัณย์ โตทวด มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รองผู้จัดการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยคณะสังคมสงเคราะห์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา นำถุงยังชีพ จำนวน 7,000 ชุด บรรทุกเรือออกแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 22 ราย ๆ ละ 20,000  บาท โดยมีมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิประจำจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ  

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563

บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด และ บริษัท เค พีพีเอ็ม ​โกลบอล​ รับเบอร์ จำกัด มอบหน้ากาก อนามัยให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้ในการป้องกันโควิด-19

บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด และ บริษัท เค

พีพีเอ็ม ​โกลบอล​ รับเบอร์ จำกัด มอบหน้ากาก

นามัยให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้ในการป้องกันโควิด-19


คุณกฤติยาณี พรม​แพงและ​ นายพัฒพงศ์ ​ พงศ์พาพัฒน์ ผู้บริหารบริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด (KPPM GLOBAL COMPANY) และ บริษัท เคพีพีเอ็ม ​โกลบอล​ รับเบอร์ จำกัด  (KPPM GLOBAL RUBBER COMPANY) ​ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท ได้แก่  นายไสว ณ นคร รองกรรมการผู้จัดการ นายทวีศักดิ์ สุขศรีนวล Gerneral Manerger บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด และ​นายราจ วาสนิก Director บริษัทฯ นำหน้ากากอนามัย My Medical จำนวน 10,000 ชิ้น มามอบให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พ.ต.อ. ปริญญา กลิ่นเกษร ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563


              คุณกฤติยาณี พรมแพง ผู้บริหารบริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด (KPPM GLOBAL COMPANY) และนายพัฒพงศ์ ​ พงศ์พาพัฒน์​ ผู้บริหารบริษัท เคพีพีเอ็ม ​โกลบอล​ รับเบอร์ จำกัด  (KPPM GLOBAL RUBBER COMPANY) กล่าวว่า    เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด และ บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล รับเบอร์ จำกัด จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นปราการด่านแรกในการต้อนรับกับชาวต่างชาติ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเล็งเห็นว่าหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญในการป้องกัน จึงได้นำหน้าการอนามัย My Medical จำนวน 10,000 ชิ้น มามอบให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ


ทางด้าน พ.ต.อ. ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ในนามสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็ต้องขอขอบคุณ คุณกฤติยาณี พรมแพงและ นายพัฒพงศ์  พงศ์พาพัฒน์ ผู้บริหารบริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล จำกัด  และ บริษัท เคพีพีเอ็ม โกลบอล รับเบอร์ จำกัด  ที่เห็นความสำคัญและมีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และได้นำหน้ากากอนามัย My Medical มามอบให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ก็จะนำหน้ากากอนามัยส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆ ต่อไป เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน”

                  

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุม สภา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กับอีก 6 สถาบัน ปรึกษาหารือการขับ เคลื่อนท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ โควิด-19 ระลอกใหม่

รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุม สภา

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

(สทท.) กับอีก 6 สถาบัน ปรึกษาหารือการขับ

เคลื่อนท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์

ควิด-19 ระลอกใหม่



          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2/2563 พร้อมด้วย นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คุณวัชรี ชูรักษา ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (มหาชน) (อพท.) นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภาคกลางและภาคตะวันออก นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) นายณัฐพล นิมมาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) 


โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการคนใหม่ ด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา ททท. และคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แก่ นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) นายพงศกร ชูวิชา นายกสมาคมผู้ประกอบนำเที่ยวไทย (สนท.นางสาวจิราพร อมรวิสิทธิ์กุล นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) คุณมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และคุณศรีพิจิตร์ เติมชัยเจริญศักดิ์ อุปนายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) และอีกหลายๆ ท่านเข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุมสุพรรณหงษ์ ชั้น 10 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563



          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปีใหม่ไม่ได้มีการล็อกดาวน์ ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ก็ได้มีแบ่งไว้เป็นโซนๆ อยู่แล้วว่าจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างอย่างไร แต่เราต้องการ์ดไม่ตก การเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ยังไปได้ แต่ขอให้ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น สวมหน้ากากอนามัย  พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม อย่าไปในที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก หลีกเลี่ยงไปยังจุดที่มีคนแออัด ถ้าทุกคนช่วยกันก็น่าจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทำต่อไปได้






ส่วนเรื่องขับเคลื่อนการท่องเที่ยวนั้นก็ต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องทำหลังจากที่โควิด-19 ที่สมุทรสาครสงบลงก่อน ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ก็เสนอแนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูการท่องเที่ยวท่องมา 5 แนวทาง คือ การยกระดับสู่การเป็น Tourism Hub ของโลก ในฐานะ Medical Tourism กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยผ่านบริษัทนำเที่ยว หรือ Tourism for Thai สร้างนโยบายจากผู้ประกอบการ Tourism Clinic และพัฒนา Platform การท่องเที่ยวไทย ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่





 

         ด้าน นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวว่า ในเรื่องของโรคไวรัสโควิด-19 เราก็คิดว่าหน่วยงานหลักในการป้องกันโควิด-19 ก็ยังคงเป็นกระทรวงสาธารณสุข  สทท. เราในฐานะของภาคเอกชน ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันในทุกภาคส่วน และหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เข้าสู่สภาวะปกติ เราก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายของเราทันที ตอนนี้เราก็ทำอยู่ไม่ได้หยุด เพราะเราบอกแล้วว่า เมื่อเราเข้ามาบริหาร สทท. เราก็พร้อมทำทันที อย่างวันนี้เราก็ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ที่เขามาร่วมประชุมกับเราในวันนี้ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (มหาชน) (อพท.) สำนักส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เราจะจะขับเคลื่อนท่องเที่ยวไปด้วยกัน

   

           ในเรื่องของ Plalform Market Tourism นั้น เราก็จะทำขึ้นมาเป็นของ สทท.ให้ได้ เรามีทีมงานทางด้าน Digital Market พร้อมอยู่แล้ว ที่จะช่วยทำขึ้นมา เพื่อให้สมาชิกของเราจากทั่วประเทศ ทั้งในสาขาอาชีพ และในส่วนภูมิภาค ได้นำ Package Tour มาขายใน Plalform ของ สทท. ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 ส่วนโครงการ ไทยเที่ยวไทย ซึ่งเป็นโครงการนำเที่ยวซื้อผ่านบริษัททัวร์นั้น เราสนับสนุนเต็มที่ ผมได้เข้าหารือกับ ททท.แล้ว เขาก็สนับเราเต็มที่ โดยจะให้เราไปขาย Package Tour ของสมาชิกเราที่ผ่านการคัดกรองจากจาก สทท.แล้ว ในงาน ไทยเที่ยวไทย” ที่ทาง ททท. จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วย

 

 

 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง  มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ  รวมทั้งเสริมสร้างค...